สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 63)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.21/23 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.24 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางของค่าเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ตลาดยังคงจับตาดู สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศของไทย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ "วันนี้ตลาดไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ เลย บาทคงน่าจะทรงตัวอยู่ในกรอบเดิม" นักบริหารเงินระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.18-31.28 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (27 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.32104% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.35919% * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.44/47 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 104.61 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1780/1782 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1806 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2580 บาท/ ดอลลาร์ - รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ยอมรับการชุมนุมทางการเมืองทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้าง โดยเฉพาะดัชนี ความเชื่อมั่นผู้บริโภค พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามเต็มที่ในการฟื้นฟูประเทศ ร่วมกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขวิกฤติให้จบ อีกทั้งขอให้ผู้ ชุมนุมเข้าใจและหันมาเป็นผู้ที่ร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป - รมว.คลัง เยผรัฐบาลยังเดินหน้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นมุ่งเน้นในเรื่องการเพิ่มกำลัง ซื้อ ส่วนระยะยาว เน้นเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่การออกมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผล กระทบของโควิดนั้น คาดว่าจะมีส่วนช่วยทำให้ GDP ของไทยในไตรมาส 3 และ 4 ปรับตัวดีขึ้น - รองประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนยังประเมินว่าการส่งออกไทยจะยังติดลบต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปี 2564 และมีโอกาสติดลบ 5.5% และมีมูลค่าประมาณ 59,224 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังไม่ชัดเจนว่าส่งออกรวมทั้งปี 2564 จะกลับมาเป็น บวกอีกครั้งหรือบวกได้ 4% ตามที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ หรือจะยังติดลบต่อเนื่อง โดยในปี 2563 น่าจะส่งออกติดลบ 6.5% และมี มูลค่าส่งออก 230,300 ล้านเหรียญสหรัฐ - ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ถึง 64 คน ซึ่งมีทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลฝ่ายละ 32 คน - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาด ใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% - ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7% ใน เดือนส.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 4.8% ในเดือนก.ค - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ต. ค.) หลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนต.ค. อันเนื่องมา จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 - สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.2 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,911.9 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) โดยได้แรงหนุน จากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวลงในเดือนต.ค. อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยว กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ - ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการ ขาย (pending home sales) เดือนก.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความ เชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.