ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนจากแรงขายสกุลเงินปลอดภัย หลังไบเดนรับตำแหน่งปธน.สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐ หลังจากที่นายโจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 90.4800 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.53 เยน จากระดับ 103.87 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2643 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2731 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.8898 ฟรังก์ จากระดับ 0.8887 ฟรังก์

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3645 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3631 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7694 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2107 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2125 ดอลลาร์

นักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย หลังจากนายไบเดนได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า คณะรัฐบาลชุดใหม่จะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังจากที่นายไบเดนได้นำเสนอมาตรการ "American Rescue Plan" วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์ และการเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนม.ค.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.