ราคาทองทรงตัวใกล้นิวไฮ 1 สัปดาห์วันนี้ หลังดีดตัวขึ้นวานนี้

ราคาทองทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 1.5% วานนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งทำให้เพิ่มความน่าดึงดูดสำหรับการลงทุนในทองคำ

ราคาทองสปอตบวก 0.1% สู่ระดับ 1,809.57 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากดีดตัวแตะ 1,812.31 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.

ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 1 ดอลลาร์ หรือ 0.05% สู่ระดับ 1,809.40 ดอลลาร์/ออนซ์

นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า สหรัฐจะเผชิญภาวะเงินเฟ้อจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ และวุฒิสภาจะให้การอนุมัติก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในคืนนี้

ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้

ที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนก.พ. และอีกครั้งในเดือนมิ.ย.หรือก.ค.

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสชุดใหม่ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเดโมแครตเช่นกัน

นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของนายพาวเวลครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2 ปี