หุ้น ICHI ราคาขยับขึ้น 4.66% มาอยู่ที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 98.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.43 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 10.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.75 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) ในปี 2564 จะรับรู้รายได้กลุ่มเครื่องดื่มผสมวิตามินได้เต็มปี มองว่าตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินยังอยู่ในทิศทางที่ดี และสามารถเติบโตได้อีกมาก คาดรายได้เบื้องต้นจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,200 ล้านบาท จากราว 380 ล้านบาทในปี 2563 คิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้รวม รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมธุรกิจในอินโดนีเซียที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทฯ จะมีรายได้ใหม่จากการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับทั้งลูกค้าในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศเพิ่มเติมอีกราว 300- 600 ล้านบาทต่อปี และจะเริ่มส่งออกน้ำด่าง PH8.5 ไปอินโดนีเซียในไตรมาส 2/64 จำนวนการผลิตที่สูงขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และส่งผลให้ GPM สูงขึ้น โดยคาด GPM ที่ 21.4% ในปี 2564 คาด 20.3% ในปี 2563
พร้อมคาดกำไรปกติในปี 2564 ของบริษัทอยู่ที่ราว 726 ล้านบาท เติบโตสูง 34.5% YoY ช่วงที่ผ่านมาราคา ICHI ย่อตัวลงมาจากการขายทำกำไรทำให้ซื้อขายที่ PE64 เพียง 17.3 เท่า เทียบกับ OSP และ CBG ที่ 25.0 และ 31.8 เท่าตามลำดับ เป็นโอกาสสะสม พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 16.20 บาท
ทั้งนี้ คาดกำไรปกติไตรมาส 4/63 ที่ 116 ล้านบาท ลดลง 4.7% QoQ เนื่องจากยอดขายของกลุ่มชาพร้อมดื่มที่ชะลอตัวต่อเนื่อง แต่จะยังโตสูง 45.4% YoY จากการรับรู้รายได้ของกลุ่มเครื่องดื่มวิตามิน 3 ชนิด (PH8.5, C&E, Vit-cc) ได้เต็มไตรมาสราว 280 ล้านบาท โดย GPM คาดทรงตัวได้ที่ราว 20% ถึงแม้อัตราการผลิตกลุ่มชาเขียวจะลดลง แต่หนุนด้วย GPM ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มเครื่องดื่มวิตามิน และปริมาณการขายเครื่องดื่มไซส์เล็กที่มากขึ้น ขณะที่ SG&A ต่อรายได้รวม คาดที่ 10.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/63 ที่ 8.5% จากการเริ่มกลับมาทำแคมเปญการตลาดในประเทศ และโฆษณาสินค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในอินโดนีเซียคาดว่าทรงตัวอยู่ที่ราว 8 ล้านบาท เท่ากับในไตรมาส 3/63 โดยยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2563 ที่ 540 ล้านบาท เติบโต 37.0% YoY
