พิษ “เอเวอร์แกรนด์” ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งหนักวันนี้

ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน ซึ่งนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ดัชนี MSCI All Country World Index ลบ 0.6% ในวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ย.

ส่วนดัชนี MSCI Asia-Pacific ex-Japan ร่วงลง 1.7% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.

ตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลง 2.3% ในวันนี้ และมีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563

ขณะเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 600 จุด หรือเกือบ 2% หลุดระดับ 34,000 จุด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ส่งสัญญาณหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง โดยสะท้อนจากการพุ่งขึ้นของ CDS (Credit Default Swap) ของหุ้นกู้จีนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ขณะที่ CDS ของหุ้นกู้ยุโรปพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.

ทั้งนี้ CDS เป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อใช้ในการป้องกันความเสี่ยงของตราสารหนี้จากการเปลี่ยนแปลงอันดับความน่าเชื่อถือ หรือการผิดนัดชำระหนี้

ก่อนหน้านี้ เอเวอร์แกรนด์ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค.2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระดังกล่าว ทางบริษัทจะมีเวลาอีก 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในสภาพผิดนัดชำระหนี้ ทางบริษัทจะต้องทำการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคาดว่านักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ

ข้อมูลที่มีการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ระบุว่า เอเวอร์แกรนด์มีตราสารหนี้เชิงพาณิชย์มูลค่ารวม 2.057 แสนล้านหยวน (3.2 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2563

มีการประเมินว่า ขณะนี้เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 10 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน

นายแลร์รี เบรนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top