บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง นักลงทุนแห่ขายหุ้น หันซื้อพันธบัตร ผวาวิกฤต "เอเวอร์แกรนด์"

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และหันมาถือครองพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน

ณ เวลา 23.57 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.304% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.842%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 700 จุด หรือกว่า 2% หลุดระดับ 34,000 จุดในวันนี้ ขณะที่ดัชนี MSCI All Country World Index ลบ 0.6% ในวันนี้ ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนก.ย.

นายแลร์รี เบรนนาร์ด นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เอเวอร์แกรนด์ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะที่บริษัทมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,780 ล้านบาท ในวันที่ 23 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค.2565 และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยวงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,580 ล้านบาท ในวันที่ 29 ก.ย.ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค.2567

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดอาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้