ผบ.ตร.ยันแจ้งเตือนล่วงหน้า-ใช้หลักสากล แต่เหตุบานปลายเพราะม็อบไร้แกนนำ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึง การชุมนุมในวันที่ 28 ก.พ. ว่า การชุมนุมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่ไม่มีแกนนำ ไม่มีการใช้เครื่องขยายเสียง จึงทำให้ยากต่อการควบคุม เมื่อเกิดความรุนแรง และจะมีกลุ่มหนึ่งที่เริ่มใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่เลย ไม่ขอพูดว่าเป็นเรื่องเจตนาหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงมีคนกลุ่มหนึ่งตั้งใจที่จะทำแบบนั้น

สำหรับการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันหลักการเดิม ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละห้วงเวลา ตำรวจพยายามหาความสมดุลระหว่างการบังคับใช้กฎหมายที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรง จริงๆ ไม่มีใครต้องการให้เกิดความรุนแรง ตำรวจไม่เคยสนับสนุนเรื่องการใช้กำลัง แต่เมื่อจำเป็นต้องบังคับ

ส่วนการใช้อาวุธเพื่อการควบคุมการชุมนุมนั้น ไม่ได้เรียงตามระดับความรุนแรงของอาวุธ ซึ่งตำรวจเลือกใช้อุปกรณ์ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เช่น การใช้กระสุนปืนยาง จะใช้ในการปะทะที่มีระยะ ส่วนหากเป็นการเผชิญหน้าจะใช้กระบอง แต่ยืนยันว่าจะมีการแจ้งเตือนก่อนเมื่อตำรวจมีการใช้ความรุนแรง และอุปกรณ์ที่ใช้เป็นไปตามหลักสากล พร้อมยอมรับว่ามีตำรวจบางนายพกปืนช็อตไฟฟ้าในการชุมนุมวานนี้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการใช้งานและผู้ที่พกพานั้นเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว

"อาวุธไม่มีสูงมีต่ำ อยุ่ที่คุณสมบัติว่าจะใช้กับสถานการณ์อะไร ถ้าถามว่าระหว่างกระบองกับกระสุนยาง อันไหนรุนแรงกว่ากัน ตอบไม่ได้ ซึ่งหากใช้กระบองตีเข้าตรงจุดที่ไม่ควรตีก็รุนแรง ในขณะเดียวกันหากใช้กระสุนยางยิงในสิ่งที่สมควรยิงก็ไม่รุนแรง เพราะกระสุนยางใช้กับเป้าหมายที่มีระยะไกล หากระยะประชิดต้องใช้กระบอง ทั้งนี้อุปกรณ์มีคุณสมบัติประจำตัว ไม่มีการเรียงลำดับใช้ก่อนหลัง ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ขณะนั้นต้องใช้อะไร คนที่อยู่ระยะไกลใช้หนังสติ๊กยิงใส่ตำรวจ จะให้เอากระบองไปตีมันไม่ถึง แต่ของที่เราใช้ทุกอย่างเป็นมาตรฐานสากล ใช้ในการควบคุมฝูงชน และครั้งนี้ไม่ได้สลายการชุมนุม แต่เป็นการจับกุมคนที่กำลังใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นความผิดซึ่งหน้า"