ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 2.21 จุด สวนทางตลาดตปท. เผชิญแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,513.51 จุด ลดลง 2.21 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 98,996.83 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,529.27 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,510.80 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 620 หลักทรัพย์ ลดลง 903 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 419 หลักทรัพย์

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายเผชิญแรงทำกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กออกมาหลังจากที่ได้มีการเก็งกำไรอย่างไร้ทิศทางก่อนหน้านี้ แล้วเริ่มกลับมาให้ความมั่นใจหุ้นขนาดใหญ่มากขึ้น หลังจากที่ผลประกอบการกลุ่มแบงก์ออกมาดีกว่าคาด ทำให้มีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนจะหันเข้าไปที่หุ้นขนาดใหญ่ อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็บวกเล็กน้อย เหมือนกันกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกเล็กน้อย ตอบรับนายโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบสหรัฐอย่างเป็นทางการ และมีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯต่อไป

พร้อมกันนี้ให้ติดตามการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเป็นผลบวกทางจิตวิทยา และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งทิศทางตลาดของแต่ละประเทศในช่วงนี้คงจะขึ้นกับการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯในระยะสั้นทางเทคนิคมีโอกาสที่จะปรับฐานได้จากแรงทำกำไร แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้ภาพตลาดเสียไป แค่เป็นการหมุนกลุ่มหุ้นเล่น

พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,527 จุด


ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 8,297.19 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท

CBG มูลค่าการซื้อขาย 3,838.45 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,202.41 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,027.02 ล้านบาท ปิดที่ 40.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

KTC มูลค่าการซื้อขาย 2,886.57 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 4.25 บาท