นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)
โดยตนเองได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเกี่ยวกับการประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในส่วนของการชี้แจงจากหน่วยงานต่างจังหวัดจะใช้การประชุมผ่านระบบซูม 100% เช่น การชี้แจงของมหาวิทยาลัยราชภัฏก็จะใช้วิธีการชี้แจงพร้อมกัน เพื่อให้แต่ละมหาวิทยาลัยเห็นภาพรวมของแต่ละแห่งพร้อมกัน ส่วนหน่วยงานในกรุงเทพฯ ก็จะให้หัวหน้าหน่วยงานเพียงคนเดียวเข้ามาในห้องประชุมชี้แจงและใช้ระบบซูมจากทีมงานซึ่งอยู่ในห้องข้างๆ
นายวิรัช กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงกรณีที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ ส.ส.ก้าวไกล ติดเชื้อโควิด-19 โดยได้มีการตรวจสอบไทม์ไลน์ เพื่อตรวจสอบว่าใครที่คิดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงบ้าง จะได้เร่งรัดตรวจสอบ อย่างไรก็ตามกำลังขีดวงอยู่ และเห็นว่ายังไม่จำเป็นถึงขั้นให้ส.ส.ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมไปตรวจหาเชื้อ เพราะเท่าที่สังเกตุนายณัชชาไม่ได้เดินมาในซีก ส.ส.รัฐบาล
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)กล่าวว่า มติงดประชุมครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของประธานรัฐสภา ซึ่งแจ้งให้ที่ประชุมทราบ โดยเป็นตามข้อกำหนดของ ศูนย์บริหารสถานการร์โควิด-19 (ศบค.) ข้อที่ 12 และเป็นการให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาล
นายสุทิน ยืนยันว่า ในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายยังคงมีการเตรียมการและพร้อมที่จะยื่น เพื่อเป็นการถ่วงดุลและตรวจสอบ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน คาดว่าไม่เกินกลางเดือนสิงหาคมสามารถยื่นญัตติได้
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกกมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวว่า ในที่ประชุมกมธ.ฯ วันนี้มีการรายงานกรณีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งวันนี้ (12 ก.ค.) กมธ.ฯ จากพรรคก้าวไกลทั้ง 5 คนไม่ได้เข้ามาร่วมประชุม แต่การประชุมยังคงต้องดำเนินการต่อไปด้วยความระมัดระวังอย่างเข้มข้น และยังไม่มีการพูดถึงการพักการประชุมหรืองดประชุมไปก่อน เพราะมีเงื่อนเวลาเนื่องจากการพิจารณาล่าช้ามา 10 กว่าวันแล้วและยังมีวันหยุดราชการอีกหลายวัน จึงต้องพยายามให้อยู่ในกรอบวันที่ 29 สิงหาคม โดยวันที่ 21-22 ส.ค.จะต้องผ่านวาระ 2 และ 3
โฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า กมธ.ใช้เวลาประชุมไปแล้ว 9 วัน รวม 160 ชั่วโมง สามารถพิจารณาไปแล้ว 8 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
