ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,544.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด (+0.65%) มูลค่าการซื้อขาย 104,811.72 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,553.92 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,529.83 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 717 หลักทรัพย์ ลดลง 860 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 458 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดยุโรปติดลบและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สแกว่งในแดนลบ จากความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯขึ้นสูง และผิดหวังถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ได้แสดงท่าทีจะเข้าดูแลปัญหาดังกล่าว
ส่วนตลาดบ้านเรารับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติคงกำลังการผลิตน้ำมัน และกลุ่มแบงก์คาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก Bond yield ขึ้นสูง ซึ่งทั้งสองกลุ่มผลักดันให้ตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดอื่น
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ แต่มีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้อีกหากมีการพักฐานระหว่างทาง พร้อมแนะจับตาทิศทาง Bond yield สหรัฐฯ กังวลว่าจะขึ้นไป 1.8-1.9% และติดตามความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 รวมถึงวัคซีนพาสปอร์ตและการเปิดเมือง
พร้อมให้แนวรรับ 1,500-1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
OR มูลค่าการซื้อขาย 5,570.29 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,040.98 ล้านบาท ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 4,212.78 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,685.51 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,502.61 ล้านบาท ปิดที่ 116.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
