World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนบวกในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65% โดยธนาคารกลางจีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 แล้ว

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางจีนจะตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งสองประเภทเอาไว้ที่ระดับเดิม หลังจากธนาคารกลางจีนได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยโครงการ MLF เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางจีนใช้ในการบริหารจัดการสภาพคล่องระยะยาวในระบบธนาคาร และถือเป็นดัชนีชี้วัดทิศทางของอัตราดอกเบี้ย LPR


-- สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) เร่งตรวจเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 200 รายได้ร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติเดนเวอร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ ภายหลังจากที่เครื่องยนต์ด้านขวาได้ระเบิด

รายงานระบุว่า เศษชิ้นส่วนของเครื่องบินได้กระจัดกระจายไปยังละแวกบ้านเรือน แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด


-- เฟซบุ๊กได้ลบเพจที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บริหารจัดการโดยกองทัพเมียนมาจำนวน 1 เพจ ซึ่งมีชื่อว่า Tatmadaw True News Information Team Page เนื่องจากเพจดังกล่าวได้ละเมิดกฎเกณฑ์เรื่องการปลุกปั่นยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ภายหลังจากที่มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 2 รายจากการสลายการชุมนุมในเมืองมัณฑเลย์

แถลงการณ์ของเฟซบุ๊กระบุว่า เราได้ลบเพจ Tatmadaw True News Information Team Page ออกจากเฟซบุ๊ก เนื่องจากเพจได้ละเมิดมาตรฐานของเฟซบุ๊กในด้านชุมชนที่สั่งห้ามมิให้มีการยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง ซึ่งได้มีการละเมิดเกิดขึ้นหลายครั้งในเพจดังกล่าว


-- อิสราเอลเริ่มเปิดเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่แล้ว หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน โดยร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และตลาดต่างๆ ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดได้ทั้งหมด

ส่วนผู้ที่ต้องการใช้บริการสถานออกกำลังกาย โรงแรม เข้าชมคอนเสิร์ต โรงภาพยนตร์ และงานสันทนาการประเภทอื่นๆ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แล้ว 2 โดส หรือเป็นผู้ที่หายป่วยจากโรคโควิด-19 แล้วเท่านั้น

แถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุว่า ประชาชนที่ได้รับวัคซีนแล้ว จะได้รับสถานะ "Green Pass" บนแอปพลิเคชันของกระทรวสาธารณสุข


-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้ประกาศภาวะภัยพิบัติในรัฐเท็กซัส ภายหลังจากที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย ขณะที่ประชาชนจำนวนมากไม่มีน้ำใช้ และเมืองต่างๆ ถูกตัดขาดจากกระแสไฟฟ้าเป็นเวลาถึง 7 วัน อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในพื้นที่

การประกาศภาวะภัยพิบัติดังกล่าวเปิดทางให้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือประชาชนในเท็กซัส รวมทั้งการจัดหาที่พักพิงชั่วคราว การซ่อมแซมบ้าน และการปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้มีการประกันไว้


-- ญี่ปุ่นได้รับวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท ไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนชุดที่ 2 ที่ได้มีการจัดส่งถึงยังประเทศญี่ปุ่นแล้วเมื่อวานนี้ ในขณะที่ญี่ปุ่นยังคงฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงเฟสแรกของการเริ่มฉีดวัคซีนภายในประเทศ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า วัคซีนโควิด-19 ชุดที่ 2 จำนวน 450,000 โดส ได้ถูกส่งถึงยังสนามบินนาริตะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงโตเกียวแล้ว ภายหลังจากที่สหภาพยุโรปได้อนุมัติให้มีการจัดส่งภายใต้มาตรการควบคุมการส่งออกวัคซีนชุดใหม่


-- ข้อมูลล่าสุดจาก App Annie บริษัทวิเคราะห์แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ระบุว่า Clubhouse มียอดดาวน์โหลดทะลุ 8 ล้านครั้งแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในโหมดรับเชิญ (invite mode) ก็ตาม

ทั้งนี้ มีรายงานว่า Clubhouse แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้องใหม่ที่จะเน้นการพูดคุยด้วยเสียงเป็นหลักนั้น มีผู้ใช้งาน 3.5 ล้านราย ณ วันที่ 1 ก.พ. 2564 และพุ่งขึ้นแตะ 8.1 ล้านรายในวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนผู้ใช้งานที่พุ่งขึ้นอย่างมากนั้นเป็นผลมาจากการที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา และนายมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊กได้เข้ามาพูดคุยผ่านแอป Clubhouse


-- สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าของอังกฤษวางแผนที่จะผลิตวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่น และจะเริ่มจัดจำหน่ายภายในประเทศทันทีที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลญี่ปุ่น

เอ็นเอชเคระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลงนามในสัญญาร่วมกับแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เพียงพอกับประชากร 60 ล้านคน โดยบริษัทได้ยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนต่อทางกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นแล้วเมื่อต้นเดือนนี้


-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.จากสถาบัน Ifo ขณะที่สหรัฐเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนม.ค.จากเฟดชิคาโก และดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดสาขาดัลลัส

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. จีนเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค. ขณะที่อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board