ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 29.97 กลับมาอ่อนค่าจากช่วงเช้า ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศคืนนี้

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.97 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก
เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 29.94 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งทางการค้า
ของจีนกับสหรัฐที่ยังไม่มีท่าทีผ่อนคลายลง
          "บาทอ่อนค่าตามภูมิภาค หลังนักลงทุนกังวลเรื่องปัญหากีดกันการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ" นักบริหารเงิน กล่าว
          นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 29.90-30.05 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ตลาดรอดูตัว
เลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตและบริการของประเทศแถบยุโรป

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.67 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 103.53 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2173 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.2169 ดอลลาร์/ยูโร
          - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,497.88 จุด ลดลง 15.63 จุด, -1.03% มูลค่าการซื้อขาย 96,698.65 ล้านบาท
          - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,134.16 ล้านบาท (SET+MAI)
          - กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกในเดือนธ.ค. มีสัญญาณที่ดีขึ้นหลายตัว ทั้งสินค้าอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวจากก่อน
หน้านี้ที่มีปัญหาจากสงครามการค้า และสถานการณ์โควิด ขณะที่รายตลาดก็ฟื้นตัวดีเช่นกัน ขณะที่ทั้งปี 63 มูลค่าส่งออกดีกว่าที่เคยคาดการณ์
ไว้ที่ -7% มีสัญญาณดี เพราะมีการนำเข้าสินค้ากลุ่มทุน และกลุ่มวัตถุดิบ ทำให้มีการเกินดุลการค้า แต่อาจจะทำให้เงินบาทในระยะต่อไป
แข็งค่าได้ ซึ่งถือว่าเรื่องค่าเงินจะเป็นปัจจัยที่ท้าทายสำหรับปี 64
          - TMB Analytics มองภาพรวมการส่งออกของไทยปี 64 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4% จากที่หดตัวราว 6.9% ในปี
ที่ผ่านมา จากปัจจัยหนุนและปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว และได้ประเมินแนวโน้มตามกลุ่มสินค้าจากปัจจัยลักษณะสินค้าและทิศทางการฟื้นตัวของอุป
สงค์เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยใช้มูลค่าส่งออกที่ได้ปรับฤดูกาลแล้ว (seasonally adjusted) เทียบกับช่วงก่อน
เกิดการระบาดรอบแรกในปีก่อน
          - นายกรัฐมนตรี หารือมาตรการด้านภาษี เพื่อลดภาระรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนกลุ่มต่างๆ  และผู้ประกอบการ เช่น 
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย,  ขยายเวลายื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี
เงินได้ฯ เป็นต้น สำหรับเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในวันอังคารหน้า (26 ม.ค.) 
          - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 
รอบใหม่ว่า โครงการ "เราชนะ" ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติไปล่าสุดว่า เชื่อว่าโครงการไทยชนะ จะมีคนสนใจมาก จึงได้
เตรียมความพร้อมในการเพิ่ม capacity ไว้ 2-3 เท่าในการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ซึ่งจะเปิดลงทะเบียนตั้งแต่ 
29 ม.ค.-12 ก.พ.นี้ 
          - บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการเว็บเทรด Satang Pro กล่าวถึงสถานการณ์ที่ราคาบิทคอยน์ ร่วงลงต่ำกว่า 
30,000 เหรียญสหรัฐในวันนี้ว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาราคาบิทคอยน์ขึ้นเร็วมาก จนหลายคนมองว่าเร็ว ๆ นี้อาจต้องปรับ
ฐานเหมือนกับที่เคยเป็นมาในอดีตเช่นปี 60-61 ในมุมมองเชื่อว่า Cycle นี้ของบิทคอยน์ยังไม่จบ และฟองสบู่บิทคอยน์ยังไม่แตก และจะ
สามารถทำ New High ได้อีก โดย JP Morgan ออกมายอมรับว่าบิทคอยน์จะเป็นการลงทุนที่ดีและบอกว่าราคาอาจจะขึ้นไปถึง 
146,000 เหรียญสหรัฐในระยะยาว 
          - นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เผยคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเริ่มพิจารณามาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ในสัปดาห์หน้า
          - สถาบันวิจัย GfK เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือน ม.ค.ลดลง 2 จุด แตะที่ระดับ -28 จุด ซึ่งสอดคล้อง
กับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
          - กระทรวงฝ่ายกิจการภายใประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่น เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคา
อาหารสดซึ่งมีความผันผวน ปรับตัวลง 1% ในเดือน ธ.ค.63 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 10 ปี และทำสถิติ
ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากราคาพลังงานปรับตัวลง และรัฐบาลออกนโยบายอุดหนุนการเดินทาง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ
โรคโควิด-19