(เพิ่มเติม) รมว.สธ. เผยไฟเซอร์ 2 ล้านโดสถึงไทย 29 ก.ย. เริ่มฉีดเด็ก 12 ปีขึ้นไป-เข็มกระตุ้นต.ค.นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการจัดหาและการฉีดวัคซีนช่วงเดือนต.ค. 64 ว่าประเทศไทยสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 30 ล้านโดส โดยจะเข้ามาวันที่ 29 ก.ย.นี้ก่อนจำนวน 2 ล้านโดส และส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจรับรองรุ่นการผลิต (Lot Release) ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยทางบริษัทไฟเซอร์มีการทำเอกสารเพื่อตรวจสอบคุณภาพวัคซีนมาล่วงหน้าแล้ว ส่วนการตรวจรับรองรุ่นการผลิตและกระจายวัคซีนออกไปฉีดได้รวดเร็ว

สำหรับที่เหลือจะทยอยส่งจนครบภายในสิ้นปี 64 ดังนั้นช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 64 จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้จำนวนการฉีดวัคซีนสามารถฉีดได้มากกว่า 9 แสนโดสต่อวัน หากมีวัคซีนมากพอ คาดว่าจะสามารถจัดสรรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ คือ เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งคณะกรรมการวิชาการกำลังหาข้อสรุป ซึ่งคาดว่าไม่มีปัญหาเนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับฉีดตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป

ส่วนในผู้ใหญ่อาจใช้วัคซีนไฟเซอร์ฉีดเป็นเข็ม 2 หรือเข็ม 3 โดยการฉีดเข็ม 3 จะเริ่มช่วงต้นเดือนต.ค. เป็นต้นไปในผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ในส่วนของผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มนั้น มีภูมิคุ้มกันสูงอยู่แล้ว ก็จะมีการฉีดเข็ม 3 ในเวลาที่เหมาะสม โดยอาจเป็นช่วงต้นปี 65 เป็นต้นไป

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้จัดหาวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ คือ ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จำนวน 30 ล้านโดส โดยจะนำเข้ามาในประเทศช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ เมื่อผ่านขั้นตอนการทดสอบคุณภาพแล้ว จะเร่งฉีดให้นักเรียนช่วงต้นเดือนต.ค.ตามความสมัครใจ และความยินยอมจากผู้ปกครอง

สำหรับการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ยังไม่ได้รับวัคซีน มีแผนการจัดสรรวัคซีนในเดือนต.ค.เช่นกัน กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าวัคซีนที่จัดหามาฉีดให้นักเรียน เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพอย่างแน่นอน

ด้านน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการหารือร่วมกัน 3 กระทรวง คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย เบื้องต้นมีแนวทางในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ได้แก่

1.แผนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) 2 เข็ม ให้แก่กลุ่มผู้ที่มีอายุ 12 -17 ปี 11 เดือน 29 วัน ณ วันที่ฉีด โดยจะอนุโลมให้แก่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุเกิน 17 ปี 11 เดือน 29 วันด้วย ซึ่งจะครอบคลุมนักเรียนนักศึกษา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า รวมถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีอายุ 12 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยจะเริ่มฉีดให้แก่นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัดก่อน พร้อมตั้งเป้าหมายให้นักเรียน นักศึกษาทุกคน ได้รับวัคซีน Pfizer เข็มที่ 1 อย่างครบถ้วน ซึ่งที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้อนุมัติในหลักการให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่นักเรียน นักศึกษาทุกสังกัด กว่า 4.5 ล้านคน ทั้ง ศธ. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และกรุงเทพมหานคร

2.แผนการดำเนินโครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) ซึ่งเป็นมาตรการสำหรับโรงเรียนประจำ เช่น โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนเอกชนที่มีความพร้อม โดย ศธ.จะประสานกับ สธ. ในการลงพื้นที่ตรวจโรงเรียน ที่จะประสงค์เข้าร่วมโครงการ ว่าเป็นไปตามมาตรการที่วางไว้หรือไม่

ทั้งนี้ การเป็นโรงเรียน SSS มีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1) เป็นโรงเรียนประจำ 2) เป็นไปตามความสมัครใจและ 3) ผ่านการประเมินความพร้อม โดยต้องแจ้งความประสงค์ผ่านต้นสังกัด มีการหารือร่วมกับผู้ปกครองและผ่านความเห็นชอบ จากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดให้มีสถานแยกกักตัวในโรงเรียน (School Isolation) จัดให้มี Safety Zone ในโรงเรียน มีการติดตามประเมินผล ซึ่งในข​ณะนี้มีสถานศึกษาจำนวน 15,465 แห่ง ที่อยู่ในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด โดยใน 12 จังหวัด มีสถานศึกษาจำนวน 1,687 แห่ง ที่อยู่ในเขตพื้นที่ 45 อำเภอปลอดเชื้อ แบ่งเป็น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 1,305 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 111 แห่ง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 21 แห่ง และสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) 250 แห่ง ซึ่ง ศธ. จะพิจารณาความพร้อมของสถานศึกษาสำหรับการเปิดภาคเรียนตามบริบทที่เหมาะสม

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงช่วงเวลาการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่นักเรียนอายุ 12-18 ปี ว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.นี้ ศธ.-สธ.จะจัดประชุมออนไลน์กับสถานศึกษา เพื่อซักซ้อมเตรียมการสื่อสารข้อมูลให้แก่ผู้ปกครองและชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานศึกษาจัดประชุมสื่อสารข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกับผู้ปกครอง ในการอนุญาตยินยอมให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี ในต้นเดือนต.ค.นี้ และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในช่วงปลายเดือนต.ค. (Pfizer 2 เข็ม ระยะห่างจะอยู่ที่ 3-4 สัปดาห์) ส่วนการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 จะพิจารณาแยกตามข้อกำหนด มาตรการ และสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่