ดาวโจนส์พักฐาน หลังพุ่งนิวไฮต้อนรับไบเดน

ดัชนีดาวโจนส์พักฐานในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นวานนี้ ขานรับการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโจ ไบเดน

นอกจากนี้ นักลงทุนมีความกังวลว่าหุ้นเริ่มมีราคาแพง โดยขณะนี้ ค่า Forward P/E Ratio ของดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 22.8 เท่า ซึ่งใกล้ระดับสูงสุดในช่วงเกิดฟองสบู่ดอทคอมในปี 2543

ณ เวลา 22.09 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,185.02 จุด ลบ 3.36 จุด หรือ 0.01%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ หลังจากนายไบเดนเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ของนายไบเดนจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการของนายไบเดนทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังจากที่นายไบเดนได้นำเสนอมาตรการ "American Rescue Plan" วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์, การเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 ดอลลาร์/สัปดาห์ โดยจะขยายโครงการช่วยเหลือดังกล่าวไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย.

นายไบเดนจะประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ และเขาจะลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีจำนวน 10 ฉบับเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในสหรัฐ

ทั้งนี้ คำสั่งพิเศษดังกล่าวจะรวมถึง การกำหนดให้ชาวอเมริกันจะต้องสวมหน้ากากอนามัยที่สนามบิน, สถานีรถไฟ และสถานีรถขนส่งระหว่างรัฐ

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนจะลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อเร่งรัดกระบวนการตรวจหาผู้ติดเชื้อ, แก้ปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ตรวจเชื้อ, การให้ข้อมูลแก่ผู้เดินทางระหว่างประเทศ รวมทั้งการโอนงบประมาณจากกองทุนภัยพิบัติแห่งชาติเพื่อช่วยเหลือชุมชนของคนกลุ่มน้อยในสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

ขณะเดียวกัน ปธน.ไบเดนจะระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐบาลกลางและบุคลากรทางการแพทย์จำนวนหลายพันคนเพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกัน หลังจากที่รัฐบาลของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้พลาดเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวอเมริกันจำนวน 20 ล้านคนภายในปี 2563

ปธน.ไบเดนยังเตรียมประกาศใช้กฎหมายการผลิตยามสงคราม (Defense Production Act) เพื่อเร่งการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีการผลิตชุด PPE, ชุดตรวจสอบโควิด และมีการจัดสรรวัตถุดิบในการผลิตวัคซีนอย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ กฎหมายการผลิตยามสงครามจะให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐในการสั่งการให้บริษัทต่างๆทำการผลิตในสิ่งที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้สหรัฐได้รับวัตถุดิบที่มีความจำเป็นในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 900,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 925,000 ราย จากระดับ 926,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ถึงแม้ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วต่ำกว่าระดับ 6.9 ล้านรายที่มีการรายงานในช่วงปลายเดือนมี.ค.2563 แต่ก็ยังคงสูงกว่าระดับ 665,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงปี 2550-2552 ซึ่งขณะนั้นเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

นักวิเคราะห์ระบุว่าตลาดแรงงานต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่จะฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19