(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 29.99 แข็งค่าจากวานนี้สวนทางภูมิภาค ให้กรอบระหว่างวัน 29.95-30.10

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 29.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย
จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.00 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังรอปัจจัยใหม่
          "บาทแข็งค่าสวนทางภูมิภาคที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งน่าจะมาจาก flow ของผู้ค้าทองคำ" นักบริหารเงิน กล่าว
          ปัจจัยที่ตลาดรอดูเป็นเรื่องความคืบหน้าการประกาศมาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ว่าที่
ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ขณะเดียวกันมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยของพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดี
สหรัฐคนใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ม.ค.64
          นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 29.95-30.10 บาท/ดอลลาร์
          THAI BAHT FIX 3M (13 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.38426% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.37454%
          SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 30.03500 บาท/ดอลลาร์

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.89 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 103.66 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ  1.2164 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.2080 ดอลลาร์/ยูโร
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.002 บาท/ดอลลาร์
          - ศูนย์วิจัยกสิกร คาดโควิด-19 รอบใหม่หนุนลูกหนี้รายย่อยเข้าโครงการช่วยเหลือจากแบงก์พุ่ง จาก 23.5% ณ พ.ย.63 ที่
ลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือ 4 ล้านบัญชี หรือ 1.15 ล้านล้านบาท คาดเอ็นพีแอลสิ้นปีแตะ 3.53% จากปลายปี 63 ที่ 3.35%
          - สมาคมตราสารหนี้ฯ คาดปีนี้ไม่เกิด บริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ แม้โควิดระบาดระลอกใหม่เหตุกลุ่มเสี่ยง "ไฮยิลด์บอนด์" 
12 บริษัทได้ยืดหนี้ออกไปแล้ว ส่วนเม็ดเงินต่างชาติประเมินยังไม่เข้าลงทุนในตลาดบอนด์ไทย เหตุ ส่วนต่างบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐขยับ
ใกล้ไทย ส่วนยอดหุ้นกู้เอกชนปีนี้คาดอยู่ที่ 7-7.5 แสนล้านบาท
          - นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องปรับแนวทางการทำงาน
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันใหม่ โดยเฉพาะเรื่องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ หลังจากได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าในปี 64 จะเป็นปีแห่ง
การดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่เมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ขึ้น ทำให้กระทบกับแผนการ
ทำงานเรื่องนี้ อย่างไรก็ดีแม้มีผลกระทบ แต่ยังมั่นใจว่าสามารถเดินหน้าตามแผนนี้ได้ โดยรัฐบาลพยายามหาทางขับเคลื่อนงานสำคัญต่างๆ 
ที่จำเป็นในทางเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่อง
          - นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจ
สีเขียว (บีซีจี โมเดล) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ บีซีจี ระยะเวลา 5 ปี 
ตั้งแต่ปี 64-69 โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายจะประกาศให้โมเดลเศรษฐกิจ บีซีจี เป็นวาระแห่งชาติเรื่องที่ 2 ต่อจากไทยแลนด์ 4.0 ที่
ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติไปก่อนหน้านี้ จึงได้สั่งการในที่ประชุมให้ไปเร่งขับเคลื่อนเรื่องนี้
          - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% 
ในเดือนพ.ย. ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค.
          - สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 8% 
ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
          - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) ขาน
รับความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อเยียวยาประชาชน
และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ดีดตัว
ขึ้นในเดือนธ.ค. รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองทองคำในฐานะ
สินทรัพย์ประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
          - นักลงทุนคาดหวังว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวในปีนี้ โดยนายโจ ไบ
เดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในวันนี้ เพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผล
กระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวจะมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์
          - ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้า
ปลีกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จาก
มหาวิทยาลัยมิชิแกน