(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.02 คาดธุรกรรมเบาบาง ตลาดรอดู Flow ช่วงสิ้นเดือน-ตัวเลข GDP สหรัฐ

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.02 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงท้าย
ตลาดวานที่ระดับ 30.04 บาท/ดอลลาร์
          เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากท้ายตลาดวานนี้ คาดว่าเป็นผลจากที่ตลาดโลกเริ่มเปิดรับความเสี่ยงในการเข้าซื้อหุ้น 
และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่การเมือง
ในประเทศ โดยเฉพาะแนวโน้มการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ใหม่นั้น ไม่ได้มีผลต่อทิศทางของค่าเงินบาทแต่อย่างใด
          "วันนี้ติดตาม flow ซึ่งเป็นช่วงสิ้นเดือน ดูธุรกรรมท้ายตลาดของทั้งฝั่ง export และ import อาจจะบางๆ ช่วงท้าย
ตลาด" นักบริหารเงินระบุ
          สำหรับคืนนี้นักลงทุนติดตามการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/63 ครั้งที่สองของสหรัฐ และตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่าง
งานรายสัปดาห์
          นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95-30.10 บาท/ดอลลาร์
          THAI BAHT FIX 3M (24 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.33776% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.34124%
          SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 30.02750	บาท/ดอลลาร์

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.09 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 105.66 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2157 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.2167 ดอลลาร์/ยูโร
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.031 บาท/ดอลลาร์
          - "สุพันธุ์" จับตาวัคซีนล็อตแรก ชี้ถ้ารัฐฉีดได้เร็ว-ปริมาณมากจะช่วยกระตุ้น ศก. วอนเดินหน้า "วัคซีนพาสปอร์ต" ดึง
ประเทศฉีดแล้วเที่ยวไทย
          - ททท.เปิดผลสำรวจพบนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ยินดีฉีดวัคซีนก่อนเที่ยวต่างประเทศ ขอเลือกไปประเทศที่ผู้ติดเชื้อโควิดต่ำ 
ขณะที่ฝรั่งเศสค้นหาแหล่งท่องเที่ยวกรุงเทพฯ อเมริกาต้องการความปลอดภัยและไม่ถูกกักตัวสำหรับบริษัททัวร์และสายการบิน ขอให้รัฐบาล
ไทยให้ความชัดเจนเงื่อนไขเข้าประเทศ
          - ศาลอาญาตัดสินคดีกลุ่ม กปปส.ชุมนุมโค่นรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ปี 2557 ถูกอัยการฟ้องหลายข้อหา ศาลใช้เวลาอ่านคำ
พิพากษากว่า 5 ชั่วโมง สั่ง จำคุก 8 แกนนำ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" 5 ปี พร้อม 3 รัฐมนตรี "พุทธิพงษ์" 7 ปี "ครูตั้น" 6 ปี 16 
เดือน "ถาวร" 5 ปี พร้อมส่งสุเทพกับพวก 8 คน เข้าเรือนจำ ศาลให้ส่งคำร้องขอประกัน ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา และสั่งยกฟ้อง 12 
จำเลย อาทิ"เจิมศักดิ์-ถวิล" ขณะที่ "วิษณุ" ชี้หลุดเก้าอี้รมต.ทันที จับตา"ประยุทธ์" ปรับครม.ใหญ่
          - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% สู่ระดับ 923,000 ยูนิตในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นัก
วิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 855,000 ยูนิต
          - สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 11.4% ใน
สัปดาห์ที่แล้ว โดยถูกกระทบจากการเกิดพายุฤดูหนาวในสหรัฐ, การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง และการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน 
ซึ่งทำให้อุปสงค์ในการขอสินเชื่อลดลง
          - ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปีกว่าที่อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับเป้าหมาย
ของเฟด ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกนาน
          - รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยได้แรงหนุน
จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง และการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีที่แล้ว
          - ประธานสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (NRF) กล่าวว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐมีแนวโน้มพุ่งขึ้น 6.5-8.2% สูงกว่าระดับ 
4.33 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
          - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืน
นี้ (24 ก.พ.) หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกกว่า 3 ปี
          - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) เนื่องจากถ้อยแถลงในเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของ
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยติดต่อกันเป็นวันที่ 2
          - ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่ง
ซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการ
บริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.