เฟซบุ๊กร่วมพัฒนา AI ใช้คาดการณ์แนวโน้มอาการผู้ป่วยโควิดทรงหรือทรุด

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คณะนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของเฟซบุ๊กระบุว่า พวกเขาได้พัฒนาซอฟท์แวร์ซึ่งสามารถคาดการณ์แนวโน้มที่ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จะมีอาการแย่ลง หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องหายใจโดยพิจารณาจากการเอ็กซเรย์ทรวงอก

เฟซบุ๊กซึ่งร่วมงานวิจัยดังกล่าวกับนักวิชาการจากหน่วยวิเคราะห์เชิงคาดการณ์และแผนกรังสีวิทยาของ NYU Langone Health ระบุว่า ซอฟท์แวร์ดังกล่าวอาจช่วยให้แพทย์สามารถหลีกเลี่ยงการส่งผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงกลับบ้านเร็วเกินไป ขณะที่จะช่วยให้โรงพยาบาลต่างๆ สามารถวางแผนในการเตรียมเครื่องช่วยหายใจ

ทั้งนี้ นักวิจัย 10 คนที่ร่วมพัฒนา AI ดังกล่าว ซึ่ง 5 คนมาจากแผนกวิจัย AI ของเฟซบุ๊ก และ 5 คนมาจาก NYU School of Medicine ระบุว่า พวกเขาได้พัฒนาการเรียนรู้ของ AI (machine-learning) ทั้งหมด 3 รูปแบบ ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

รูปแบบแรกคือความพยายามที่จะคาดการณ์ภาวะที่ย่ำแย่ลงของผู้ป่วยโดยอิงกับการเอ็กซเรย์ทรวงอกเพียงครั้งเดียว, รูปแบบที่สองคือการคาดการณ์จากการเอ็กซเรย์ทรวงอกอย่างต่อเนื่อง และรูปแบบที่ 3 คือการเอ็กซเรย์เพียงครั้งเดียวเพื่อคาดการณ์ปริมาณออกซิเจนเสริมที่ผู้ป่วยอาจต้องการ

นักวิจัยระบุในบล็อกโพสต์ที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (15 ม.ค.) ระบุว่า "รูปแบบที่ใช้การเอ็กซเรย์ทรวงอกอย่างต่อเนื่องนั้น สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ราว 4 วัน (96 ชั่วโมง) หากผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งโดยรวมแล้ว การคาดการณ์ของ AI ให้ผลดีกว่าการคาดการณ์ของมนุษย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ

วิลเลียม มัวร์ ศาสตราจารย์ด้านรังสีวิทยาของ NYU Langone Health ระบุในแถลงการณ์ว่า "เราสามารถแสดงให้เห็นว่า ด้วยการใช้อัลกอริทึ่ม AI นี้ การเอ็กซเรย์ทรวงอกอย่างต่อเนื่องนั้น สามารถคาดการณ์ถึงความจำเป็นในการเพิ่มการดูแลผู้ป่วยโควิด-19"

ศาสตราจารย์มัวร์กล่าวเสริมว่า "ขณะที่โรคโควิด-19 ยังคงเป็นประเด็นด้านสาธารณสุขที่สำคัญ ความสามารถที่จะคาดการณ์ความต้องการของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเพิ่มการดูแล เช่น การรักษาในห้อง ICU นั้น นับเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับโรงพยาบาลต่างๆ"