บอร์ด ECC ผลักดัน 5G ในพื้นที่อีอีซี นำร่อง บ้านฉาง เมืองอัจฉริยะ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เพื่อเร่งให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี 5G ในประเทศ และมอบแนวทางให้มีขยายการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ครอบคลุมทั้งด้านคมนาคม การศึกษา การเกษตร อุตสาหกรรม และสุขภาพ เพื่อให้ไทยก้าวสู่เศรษฐกิจสังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม เต็มประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 1/2564 ได้รับทราบการลงทุนพัฒนาระบบ 5G ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้มีการเดินหน้าติดตั้ง ท่อ เสา สาย และสัญญาณแล้วเสร็จเกินร้อยละ 80 ด้วยการใช้เสาอัจฉริยะ (Smart pole) ทำให้สามารถกำหนดราคาต่ำสุด ลดภาระต้นทุน เพิ่มความสามารถการแข่งขันของธุรกิจ รวมทั้งความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลคลาวด์ภาครัฐและภาคเอกชนที่เปิดเผยได้ จัดทำข้อมูลกลางเพื่อธุรกิจในอนาคต หรือ Common Data Lake ใน EEC รวมถึงการใช้ประโยชนที่เน้นเพิ่มผู้ใช้ 5G ในภาคการผลิตและภาคธุรกิจ ได้แก่ โรงงานใน EEC 10,000 แห่งและโรงแรม 300 แห่ง สถานศึกษา โรงพยาบาล นำร่องใช้ 5G บริเวณสัตหีบ สนามบินอู่ตะเภา นิคมฯ มาบตาพุดและบ้านฉาง

นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้ "บ้างฉาง เป็นต้นแบบชุมชนอนาคต" (Smart city) ให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จาก 5 G ในมิติต่างๆ ทั้งการวางแผนการเพาะปลูกด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ (precision farming) และดิจิทัลเพื่อดูแลสุขภาพชุมชน รวมทั้งส่งเสริมการสร้างธุรกิจใหม่จาก 5G เช่น แอปพลิเคชั่นด้านหุ่นยนต์และออโตเมชั่น เป็นต้น พร้อมทั้ง การพัฒนาบุคลากร ที่เน้นผลิตบุคลากรที่มีทักษะตามความต้องการของเอกชน (Up-Re-New Skill) ด้วยการประสานกับบริษัทชั้นนำ เช่น Huawai, HP ในการผลิตบุคลากรร่วมกันกว่า 44,000 คน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเดินหน้า 5G ในไทยว่า ขณะนี้ได้เริ่มติดตั้งโครงข่าย 5G แล้วในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ รวมทั้งยังมีโครงการนำร่องด้านต่างๆ อาทิ สถานีอัจฉริยะ (Smart Station) ณ สถานีกลางบางซื่อ ต้นแบบสถานีอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี 5G แห่งแรกของประเทศไทยและแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีบริการ Smart Information ช่วยเหลือผู้เดินทาง เช่น การนำทางภายในสถานี การช่วยเหลือฉุกเฉิน Automation Wheelchair บริการผู้พิการและผู้สูงอายุ โดยระบุจุดหมายและ wheelchair จะเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่เป้าหมายอัตโนมัติด้วย 5G และโครงการ Smart Campus ของ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พัฒนา Wireless Campus ยกระดับห้องเรียนแบบ Intelligent Hybrid Classroom ต้นแบบ จัดการความปลอดภัยด้วย Face Recognition/Anti-Fake Prevention/Smart Access Control System สำหรับการตรวจสอบผู้เข้า-ออกมหาวิทยาลัย เป็นต้น