World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

เอเวอร์แกรนด์ ผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารรายใหญ่อย่างน้อย 2 แห่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีแนวโน้มว่ากรณีของเอเวอร์แกรนด์จะกลายเป็นหนึ่งในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ที่สุดของจีน

แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทยังคงหวังว่ารัฐบาลจีนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในประเด็นดังกล่าว โดย Citigroup, Fidelity และ AllianceBernstein ระบุว่า แม้เอเวอร์แกรนด์จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนด แต่ทางการจีนจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อป้องกันวิกฤตซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจ


-- นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า โลกกำลังเดินหน้าสู่การทำลายระบบนิเวศ พร้อมระบุว่า ความไม่เท่าเทียมในด้านวัคซีนทั่วโลก "เป็นความต่ำช้า" ในขณะที่ปธน. โจ ไบเดน เตรียมประกาศคำสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ 500 ล้านโดสสำหรับการส่งออกไปทั่วโลก

ด้านปธน. ไบเดนเรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโรคภัยไข้เจ็บซึ่งเป็นภัยคุกคามเร่งด่วน ขณะเดียวกัน ปธน.ไบเดนให้คำมั่นว่าสหรัฐจะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินเป็น 2 เท่าเพื่อช่วยให้ประเทศที่มีรายได้น้อยปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น และเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด


-- สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐกำลังดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อต่อสู้กับอิทธิพลจีน โดยอยู่ในระหว่างการกำหนดเกณฑ์คัดกรองการลงทุนที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และพยายามป้องกันไม่ให้ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด เพื่อคุกคามความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน

เอกสารซึ่งจัดทำขึ้นสำหรับการประชุมสภาการค้าและเทคโนโลยีสหรัฐ-สหภาพยุโรปในวันที่ 29 กันยายนระบุว่า ประเทศต่าง ๆ จะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับการบังคับใช้แรงงานและสนับสนุนการแข่งขันในระดับสากล ในขณะเดียวกัน อังกฤษกำลังพิจารณาการเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา


-- ฮ่องกงได้ขยายขอบเขตของภาษาทางกฎหมายที่ใช้อธิบายการกระทำที่ละเมิดความมั่นคงแห่งชาติอย่างเงียบ ๆ ซึ่งจะส่งผลให้การปราบปรามผู้เห็นต่างในดินแดนมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของฮ่องกงได้ใช้คำว่า "ตรงกันข้ามกับผลประโยชน์ของความมั่นคงของชาติ" เพื่อกำหนดบทลงโทษใหม่ในอุตสาหกรรมบันเทิงและการเก็บภาษี


-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 220 ต่อ 221 ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันอังคาร (21 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. และหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องถูกปิดการดำเนินงาน นอกจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรยังมีมติให้ยกเลิกเพดานหนี้ของสหรัฐไปจนถึงสิ้นปี 2565

ขณะนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังวุฒิสภาเพื่อให้การรับรองเป็นลำดับต่อไป อย่างไรก็ดี วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายรายยืนกรานว่าจะไม่โหวตรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว


-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1.903 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2550

ก่อนหน้านี้ สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.894 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1


-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 4.65% ในวันนี้ โดยธนาคารกลางจีนได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งสองประเภทติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีถือเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง


-- นายมาร์โค โคลาโนวิช นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า เขายังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้น แม้เกิดวิกฤตหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของจีน

นายโคลาโนวิชกล่าวว่า การทรุดตัวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ ถือเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อหุ้นของนักลงทุน โดยการดิ่งลงของดัชนีดาวโจนส์เกิดจากการที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ และนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก และมีปฏิกริยาต่อข่าวเอเวอร์แกรนด์มากเกินไป


-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ของสหรัฐ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)