ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ไหลไม่หยุด ล่าสุดดิ่งกว่า 300 จุด จับตาเฟด,ผลประกอบการ

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดร่วงลงกว่า 300 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้

ณ เวลา 20.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 338 จุด หรือ 1.1% สู่ระดับ 30,504 จุด

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 17 ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ขณะที่ตลาดจะให้ความสนใจต่อถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อดูว่าเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนหรือไม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

หากนายพาวเวลส่งสัญญาณลดวงเงินในมาตรการ QE ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างรุนแรงดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 2556

ราคาหุ้นโบอิ้งร่วงลงมากกว่า 4% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ หลังบริษัทรายงานตัวเลขขาดทุนสุทธิในปีที่แล้วสูงถึง 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่เครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX ถูกสั่งห้ามบิน หลังจากเครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุในปี 2561 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนหันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่เทขายหุ้นกลุ่มที่อิงกับภาวะเศรษฐกิจ

บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาดเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของแอปเปิล เฟซบุ๊ก และเทสลา หลังจากปิดตลาดวันนี้

ทั้งนี้ หุ้นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีต่างดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้ ขานรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค หลังรัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันต้องทำงานที่บ้านและเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์

ข้อมูลระบุว่า ในบรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่มีการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/63 แล้ว มีจำนวน 70% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้