
นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าทำงาน ในวันหยุดพักผ่อนประจำปีของพนักงานและลูกจ้างของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 สตง. ตรวจพบการเบิกจ่ายรวมเป็นเงินกว่า 324 ล้านบาท โดยมีลักษณะเป็นการอนุญาตให้ผู้ปฏิบัติงานลาหยุดพักผ่อนประจำปี และเรียกตัวกลับมาปฏิบัติงานในช่วงที่หยุดพักผ่อนประจำปี พร้อมให้เบิกค่าทำงานในวันหยุด ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและไม่มีความจำเป็นอย่างแท้จริง สรุปประเด็นข้อตรวจพบได้ดังนี้
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้การขออนุมัติทำงานในวันหยุด (รวมถึงวันหยุดพักผ่อนประจำปี) จะขอเป็นการประจำก็ได้ โดยให้ขอปีละครั้งก่อนวันเริ่มปีงบประมาณไม่น้อยกว่าสองเดือน ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการกำหนดให้ทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีล่วงหน้าโดยที่ผู้ปฏิบัติงานยังไม่ยื่นใบลา และยังไม่ทราบว่าในช่วงนั้นจะมีความจำเป็นหรือมีงานฉุกเฉินหรือไม่ จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานต้องยื่นใบลาในช่วงนั้นเพื่อให้มีการเรียกตัวกลับมาทำงาน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่สุจริต อีกทั้งอาจทำให้มีการเรียกผู้ปฏิบัติงานมาทำงานในช่วงหยุดพักผ่อนโดยไม่มีเหตุจำเป็นอย่างแท้จริง เนื่องจากมีระเบียบและข้อสั่งการอนุญาตเป็นหลักการไว้
"การเบิกจ่ายค่าทำงานในวันหยุดปีละกว่า 100 ล้านบาท มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของหน่วยงานอย่างมาก และเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานอาศัยช่องทางของกฎหมายและระเบียบ ใช้จ่ายเงินเพื่อประโยชน์ของตนเองและผู้อื่น อันเป็นเหตุให้หน่วยงานได้รับความเสียหาย เนื่องจากต้องจ่ายเงินค่าทำงานในวันหยุด ทั้งที่การปฏิบัติงานเกิดขึ้นในวันและเวลาทำงานปกติ นอกจากนี้ การดำเนินการในลักษณะดังกล่าวยังไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องร่วมมือกันลดต้นทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของหน่วยงาน" นายประจักษ์ กล่าว
ในขณะเดียวกัน ให้พิจารณาทบทวนหรือยกเลิกระเบียบและข้อสั่งการที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อไม่ให้มีช่องทางให้สามารถดำเนินการใด ๆ ให้เกิดการเบิกจ่ายเงินค่าทำงานในวันหยุดโดยไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เช่น กรณีการขออนุมัติทำงานในวันหยุดเป็นการประจำไม่ควรรวมถึงการหยุดพักผ่อนประจำปี ไม่ควรกำหนดจำนวนวันที่สามารถเรียกตัวผู้ปฏิบัติงานที่หยุดพักผ่อนประจำปีมาทำงานในวันหยุดได้ และอาจกำหนดให้กรณีมีเหตุฉุกเฉิน หรือจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเรียกตัวผู้ปฏิบัติงานกลับมาทำงาน ให้ถือว่า เป็นการยกเลิกการหยุดพักผ่อนประจำปี และให้ไปใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีในช่วงเวลาอื่น ซึ่งไม่เป็นการกระทบสิทธิวันหยุดพักผ่อนของพนักงาน และไม่เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้หน่วยงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับหน่วยงานมากกว่า เป็นต้น