ออสเตรเลียเผยเหตุโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นช่วงโควิด ชี้บริการทางการแพทย์ตกเป็นเป้าหมาย

รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้อาชญากรรมทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น 13% โดยผู้ประสงค์ร้ายได้พุ่งเป้าโจมตีผู้ที่ทำงานจากที่บ้าน รวมถึงสอดแนมบุคคลที่สุ่มเสี่ยงและผู้ให้บริการทางการแพทย์ เพื่อหวังขโมยเงินและล้วงข้อมูลสำคัญ

รายงานประจำปีของศูนย์ดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ของออสเตรเลียระบุว่า ทางศูนย์ฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์กว่า 67,500 ครั้งในรอบ 12 เดือนเมื่อนับจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หรือเฉลี่ยทุก 8 นาทีต่อครั้ง โดยมีการรายงานที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้นเกือบ 15% ในช่วงดังกล่าว

ทางด้านนายแอนดรูว์ แฮสตี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า 1 ใน 4 ของเหตุโจมตีทางไซเบอร์ที่รายงานนั้นส่งผลกระทบต่อหน่วยงานผู้ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งได้แก่ บริการที่จำเป็นในด้านการศึกษา, การติดต่อสื่อสาร, ไฟฟ้า, ประปา และการขนส่ง

“ในช่วงเวลาที่ชาวออสเตรเลียต้องพึ่งพาบุคลากรทางการแพทย์มากที่สุดเพื่อช่วยเหลือและรักษาชีวิตในภาวะโรคระบาดเช่นนี้ ภาคบริการทางด้านสาธารณสุขมีรายงานเหตุโจมตีจากแรนซัมแวร์มากที่สุดเป็นอันดับสอง” 

นายแฮสตีระบุในแถลงการณ์

นายแฮสตียังระบุว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น มีรายงานอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด-19 กว่า 1,500 ครั้งในแต่ละเดือน และได้มีการลบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหามุ่งเน้นการระบาดแต่แอบแฝงจุดประสงค์ร้ายไปกว่า 110 เว็บไซต์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top