ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ข่าวดีวัคซีน

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J)

ณ เวลา 21.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 31,167.62 จุด บวก 107.15 จุด หรือ 0.34%

ทั้งนี้ J&J เปิดเผยผลการทดลองระบุว่า วัคซีนของทางบริษัทสามารถให้การป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วยการฉีดเพียงโดสเดียว

ก่อนหน้านี้ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค, แอสตร้าเซนเนก้า/มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และโมเดอร์นา ล้วนต้องมีการฉีด 2 โดสเพื่อสร้างภูมิต้านทานต่อโควิด-19 ซึ่งการฉีด 2 โดสได้สร้างข้อจำกัดต่อรัฐบาลประเทศต่างๆในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ส่งผลให้บางประเทศพยายามยืดเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่ประชากรจำนวนมากที่สุด

นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่สื่อรายงานว่าอาจมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ นายไบเดนเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในวันนี้เพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายไบเดนกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์

แหล่งข่าวระบุว่า นายไบเดนจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 965,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 140,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว

คาดว่านายไบเดนจะเร่งขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว หลังจากที่เขาเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. ขณะที่พรรคเดโมแครตสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากที่ถูกขัดขวางก่อนหน้านี้จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นายไบเดนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาสนับสนุนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงินในการส่งเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์

นายไบเดนกล่าวว่า การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

แหล่งข่าวระบุว่า นายไบเดนจะยังไม่พิจารณาการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เขาเคยระบุไว้ในการรณรงค์หาเสียงช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยจะให้สภาคองเกรสให้ความสำคัญต่อการผ่านกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเป็นลำดับแรก

ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติในสภาผู้แทนราษฎร แต่นายไบเดนอาจต้องใช้ความพยายามในการผลักดันให้ผ่านการรับรองในวุฒิสภา เนื่องจากขณะนี้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีคะแนนเสียงเท่ากันที่ 50-50 และการผ่านมาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างต่ำ 60 เสียง ทำให้นายไบเดนจำเป็นต้องพึ่งพาสมาชิกพรรครีพับลิกันอย่างน้อย 10 เสียงในการผ่านมาตรการดังกล่าว