นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า
ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดมีผู้เดินทางเข้าประเทศไทย 94 ประเทศ จำนวน 218,735 คน ตรวจพบผู้ติดเชื้อจากประเทศต้นทาง 80 ประเทศรวม 1,755 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.81 รักษาหาย 1,566 ราย คิดเป็น 88% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็น 0.17% ของผู้ติดเชื้อ โดยผู้ติดเชื้อเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในอัตรา 1.23 : 1 อายุเฉลี่ย 32 ปี โดยพบอายุต่ำสุด 2 เดือน มากที่สุด 83 ปี สัญชาติที่พบมากสุด คือ คนไทย 1,298 ราย รองลงมาคืออินเดีย 79 ราย สหรัฐอเมริกา 49 ราย อังกฤษ 31 ราย รัสเซีย 29 ราย ฝรั่งเศส 24 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 19 ราย ปากีสถาน 16 ราย ญี่ปุ่น 14 ราย และเยอรมนี 14 ราย
"มาตรการควบคุมโรคของประเทศต่างๆ ล้วนต้องการที่จะฟื้นฟูกลับมาให้เร็วที่สุด แต่คำว่าเร็วที่สุดต้องดีที่สุดด้วย การเกิดระลอกการระบาดทำให้ประเทศต่างๆ ล้มลง ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจ การลุกขึ้นเร็ว อาจเซล้มลงได้อีก ซึ่งจะเป็นปัญหาที่เกิดผลกระทบระยะยาว ดังนั้นในการควบคุมโรคจึงควรมีการประเมินในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ลุกขึ้นมาได้อย่างมั่นคง มีคุณภาพ และไม่ช้าเกินไป ขอฝากประชาชนเรื่องของการพยายามดูแลตัวเอง รักษาระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก เข้มงวดกับตัวเองจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด" นพ.เฉวตสรร กล่าว
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อสะสมเฉียดร้อยล้านรายแล้ว โดยคาดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะทะลุร้อยล้านราย