ราคาน้ำมัน WTI ดีดกว่า 1% เก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนอุปสงค์น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 21.12 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.34% สู่ระดับ 53.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

คาดว่านายไบเดนจะขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนี้ ขณะที่พรรคเดโมแครตสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากที่ถูกขัดขวางก่อนหน้านี้จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นอกจากนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายไบเดน มิฉะนั้น เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะถดถอยที่ยาวนาน และประสบความเสียหายในระยะยาว

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.

ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ขณะที่รัสเซียและคาซัคสถานเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวมกัน 75,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ.และมี.ค.

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 300,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว