*SKE เป้ารายได้ปี 64 โตแตะ 700 ลบ.ลุ้นชิงโรงไฟฟ้าขยะชุมชน-เมกะโซลาร์ฟาร์ม

นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะอยู่ที่ 700 ล้านบาท จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้ 533.66 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (PMS) ให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ (NGV) สถานีปทุมธานี เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ขณะที่สถานีอัดก๊าซที่จังหวัดสระบุรี แม้ว่าจะถูกให้หยุดบริการแต่อย่างไรก็ตามบริษัทมีสัญญากับขั้นต่ำกับทาง บมจ.ปตท. (PTT) ที่ 320 ตัน/วัน ซึ่งจะสามารถรับรู้กำไรสุทธิราว 15.6 ล้านบาทต่อปีจนกว่าจะครบอายุสัญญาที่มีเหลืออีก 10 ปี

ในส่วนของโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ ซึ่งมีสัญญาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 8 เมกะวัตต์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยังคงสามารถเดินเครื่องการผลิตได้ค่อนข้างดี และยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี รวมไปถึงจ้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่มีทิศทางปรับตัวลดลงอีก

สำหรับธุรกิจใหม่ บริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด (N15) ในปีนี้คาดว่าจะดำเนินการบริหารจัดการของเสียและคัดแยกแปรรูปขยะโดยการบดย่อยเพื่อทำเป็นเชื้อเพลิงผสม RDF ได้เต็มกำลังการผลิตทั้งหมด 80,000 ตัน และมีรายได้ราว 97 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จาก N15 ราว 50% หรือตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป ซึ่ง N15 มีอัตรากำไรสุทธิราว 9-10%

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมพร้อมที่จะเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 14 โครงการ กำลังการผลิตรวมราว 38 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มมี TOR ออกมาในช่วงปลายเดือน มี.ค. นี้ และจะรู้ผลการประมูลในช่วงปลายปี ซึ่งบริษัทคาดหวังจะมีชนะการประมูลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการยื่นความประสงค์เข้าร่วมพัฒนาโครงการ "เมกะโซลาร์ฟาร์ม" โดยในปีนี้คาดว่าจะมีโครงการแรกออกมาที่ 300 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทได้ยื่นความประสงค์ไว้ทั้งหมด 50 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการได้โครงการในปีนี้ และหากได้โครงการก็จะเริ่มพัฒนาในปี 65 โดยบริษัทยืนยังว่ามีช่องทางเงินทุนเพียงพอที่จะสามารถลงทุนได้ต่อเนื่อง