*(เพิ่มเติม) ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 271 ราย ในปท 78.-ตรวจเชิงรุก 181-ตปท.12,ตาย 2

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 271 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 78 ราย จากกทม. 14 ราย สมุทรปราการ 5 ราย ชลบุรี 5 ราย ระยอง 8 ราย นครราชสีมา 1 ราย นนทบุรี 2 ราย ปทุมธานี 1 ราย สมุทรสาคร 36 ราย สิงห์บุรี 1 ราย อ่างทอง 5 ราย, ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 181 ราย จากสมุทรสาคร 172 ราย ฉะเชิงเทรา 1 ราย ชลบุรี 5 ราย ระยอง 3 ราย

ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย แบ่งเป็นผู้ที่เข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 11 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน 2 ราย ฮังการี 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย รัสเซีย 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย แคนาดา 1 ราย เยอรมนี 1 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และผู้เดินทางจากมาเลเซีย 1 ราย (ไม่ผ่านการคัดกรองและสถานกักกัน)

จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 11,262 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 5,863 ราย และการตรวจคัดกรองเชิงรุก 3,187 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,212 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 7,660 ราย เพิ่มขึ้น 717 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 69 ราย

ผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัว วันที่ 5 ธ.ค.เดินทางจากลอนดอน ถึงไทยวันที่ 7 ธ.ค. เข้า สถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) พบปอดอักเสบ อาการแย่ลง และเสียชีวิตวันที่ 13 ม.ค.

อีกราย เป็นชายไทย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้าง มีโรคประจำตัวเบาหวาน มีประวัติเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี ชลบุรี และเพชรบุรีด้วยยรถยนต์ส่วนตัว ระหว่างวันที่ 26-30 ธ.ค. โดยวันที่ 3 ม.ค. เริ่มมีไข้ ปวดศีรษะ วันที่ 5 ม.ค.เข้ารักษาตัวที่รพ.นนทบุรี ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และปอดอักเสบ อาการทรุดลงเร็วและเสียชีวิตในวันที่ 10 ม.ค.

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดในประเทศรวม 60 จังหวัด โดยมีแนวโน้มทรงตัว มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 50 ราย 10 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 11-50 ราย 12 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 1-10 ราย 38 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ 17 จังหวัด ซึ่งจะเห็นจากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์ที่สองของเดือน ม.ค.เหลืออีกสองวันอยู่ที่ 1,209 ราย ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของสัปดาห์แรกที่มี 2,600 ราย ทำให้เกิดความวางใจในระดับหนึ่ง หากทุกคนร่วมมือกันเชื่อว่าจะช่วยควบคุมสถานการณ์ได้

โดยหลังจากวันที่ 17 ม.ค.64 จะมีการประเมินว่ามาตรการที่ออกมาเมื่อวันที่ 4 ม.ค.64 ได้ผลหรือไม่ แต่ยังต้องขอความร่วมมือจากทุกคนให้ดำเนินมาตรการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.64 หากสถานการณ์ดีขึ้นก็ไม่ต้องเพิ่มมาตรการควบคุมมากขึ้น เช่น การประกาศเคอร์ฟิว การล็อกดาวน์ เป็นต้น

โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.63-14 ม.ค.64 ได้แก่ สมุทรสาคร 3,599 ราย ชลบุรี 630 ราย ระยอง 564 ราย กรุงเทพฯ 526 ราย สมุทรปราการ304 ราย จันทบุรี 212 ราย นนทบุรี 149 ราย อ่างทอง 89 ราย นครปฐม 77 ราย และ ปทุมธานี 68 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในจังหวัดชลบุรีแนวโน้มลดลง ขณะที่จันทบุรี และสมุทรสาคร แนวโน้มคงที่ แต่จ.ระยอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ส่วนความคืบหน้าการโหลดแอปพลิเคชั่น "หมอชนะ" ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค.64 มียอดโหลด 7.18 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่มียอดโหลด 6.79 ล้านราย ขณะที่มีผู้ลงทะเบียนใช้งานจริง 5.05 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ 4.83 ล้านราย แต่เนื่องจากประเทศไทยมีประชากรราว 70 ล้านคน หากมียอดโหลดเพิ่มขึ้นถึง 40 ล้านรายจึงจะช่วยให้ป้องกันได้ เพราะกว่าผลของวัคซีนจะใช้ได้อาจต้องรอถึงปลายปี โดยผลจากการโหลดแอปฯ หลังกรมควบคุมโรคพบผู้ติดเชื้อได้แจ้งเตือนผู้สัมผัสเสี่ยงให้สังเกตุอาการตัวเอง เช่น กรณีเมื่อวันที่ 9 ม.ค.64 มีการแจ้งเตือนในกรุงเทพฯ 112 ราย, เมื่อวันที่ 10 ม.ค.64 มีการแจ้งเตือนในกรุงเทพฯ 394 ราย และเมื่อวันที่ 13 ม.ค.64 มีการแจ้งเตือนในจังหวัดชลบุรี 135 ราย

ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 742,402 ราย ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 92,767,845 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 16,288 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 1,986,696 ราย โดยสหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 23,616,345 ราย ตามมาด้วยอินเดีย 10,512,831 ราย บราซิล 8,257,459 ราย รัสเซีย 3,471,053 ราย และ สหราชอาณาจักร 3,211,576 ราย