นร.สังกัดกทม.ส่วนใหญ่ยินยอมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ พร้อมเริ่มฉีดได้ 4 ต.ค.

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสำรวจข้อมูลเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองยินยอมให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า สำนักอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักการศึกษากทม. เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนให้เด็กที่มีอายุ 12-17 ปี ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น-ตอนปลาย, ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.), ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่าทุกสังกัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงาน ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลให้ทันตามกำหนด โดยให้เริ่มฉีดในวันที่ 4 ต.ค. 64 ซึ่งสถานศึกษาทุกสังกัดได้เร่งดำเนินการสำรวจ และกำหนดส่งข้อมูลนักเรียนที่ประสงค์รับวัคซีนมายังสำนักอนามัยภายในวันที่ 27 ก.ย.แล้ว เพื่อรวบรวมข้อมูลจำนวนความต้องการวัคซีนทั้งหมด ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนให้ต่อไป

สำหรับโรงเรียนในสังกัดกทม. สำนักการศึกษาได้ดำเนินการสำรวจความต้องการวัคซีนไฟเซอร์ ตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำรวจนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี ในระดับมัธยมศึกษาของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 109 โรงเรียน และรวบรวมข้อมูลเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยนักเรียนที่แจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มีจำนวนทั้งสิ้น 33,047 คน คิดเป็น 88.21% ของนักเรียนทั้งหมด

ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อวางแผนขับเคลื่อนและกำหนดแนวทางการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ให้เหมาะสม รัดกุม และเป็นไปได้ตามกรอบเวลา โดยเบื้องต้นวางแผนจะฉีดวัคซีนในรูปแบบ School-based กระจายภาระงานตามพื้นที่ โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง สังกัดสำนักอนามัยดูแล ส่วนในกรณีที่มีนักเรียนจำนวนมาก และสถานที่ไม่เอื้อต่อมาตรการป้องกันควบคุมโรคจะใช้หน่วยฉีดวัคซีนอื่นที่สำนักงานเขตกำหนด

นอกจากนี้ สำนักการศึกษา ได้เร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติ และการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไป ในช่องทางสื่อสารต่างๆ และจะมีการแจ้งวัน เวลา และสถานที่นัดหมายในการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กนักเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้กับผู้ปกครองทราบต่อไป

ในส่วนของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครที่พักอาศัยอยู่นอกพื้นที่ และมีความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างจังหวัด สำนักการศึกษาได้ดำเนินการส่งรายชื่อดังกล่าวให้ศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top