ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เงินปอนด์แข็งค่า รับความหวังอังกฤษผ่อนคลายล็อกดาวน์

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) ขานรับความหวังที่ว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.37% สู่ระดับ 90.0300 เมื่อคืนนี้

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.4074 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4013 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2114 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7865 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.03 เยน จากระดับ 105.49 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8957 ฟรังก์ จากระดับ 0.8967 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2602 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์แคนาดา

สื่อรายงานว่า นายจอห์นสันเตรียมประกาศแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยอาจจะอนุญาตให้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันที่ 8 มี.ค. ขณะที่ประชาชนจะสามารถกลับมาพบปะกันในกลุ่มเล็กๆ หรือทำกิจกรรมนอกบ้านได้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน อังกฤษอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินมาตรการควบคุมที่คล้ายกันในสก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ และแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ โดยถ้อยแถลงของนายพาวเวลครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เฟดสาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตรัฐเท็กซัสพุ่งขึ้นสู่ระดับ 19.9 ในเดือนก.พ. จากระดับ 4.6 ในเดือนม.ค.

ทางด้านเฟดสาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.66 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.15 จากระดับ 0.41 ในเดือนธ.ค. โดยการดีดตัวของดัชนีได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของยอดขายบ้านและการบริโภค

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.