ศรีสุวรรณ ยื่นเพิ่ม ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่สัญชาติไทยช่วยหาเสียง อบจ.เชียงใหม่

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ได้อัดคลิปคำพูดโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันพุธที่ 16 ธ.ค.63 เพื่อช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ของพรรคเพื่อไทย ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาอย่างเปิดเผย

ทั้งนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เห็นว่าน่าจะขัดต่อกฎหมายจึงได้มีหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต.เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน กรณีการกระทำของบุคคล ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง และหรือพรรคการเมือง อาจกระทำการในลักษณะฝ่าฝืน มาตรา 28 และหรือ มาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ อย่างไร หากพบว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือมีความผิด ขอให้ดำเนินการเอาโทษตามที่กฎหมายบัญญัติต่อไปแล้วนั้น

แต่ปรากฎว่าเมื่อวันพุธที่ 19 ธ.ค.63 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ปรากฎว่าในเฟซบุ๊กส่วนตัวก็ยังปรากฎคลิปของนายทักษิณ ซึ่งมิได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัคร นายก อบจ. พรรคเพื่อไทย ตามที่กฎหมายกำหนด แต่กลับยังช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งวันที่ 20 ธ.ค.63 อย่างเปิดเผย โดยไม่มีการลบคลิปดังกล่าวออกไป ชี้ให้เห็นถึงการช่วยหาเสียงเกินกว่าระยะเวลาที่พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 64 ประกอบ มาตรา 65 กำหนด

อีกทั้งยังปรากฏเป็นการทั่วไปโดยมีสื่อมวลชนหลายแขนงได้รายงานตรงกันว่า นายทักษิณ เป็นบุคคลสัญชาติมอนเตเนโกร เมื่อปี 2553 ไปนานแล้ว และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นบุคคล สัญชาติเซอร์เบียร์ไปเมื่อปี 62 ที่ผ่านมา จึงอาจต้องห้าม ตาม มาตรา 68 แห่งพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 และ อาจเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ด้วย

นอกจากนั้น ยังมีพลเมืองดีซึ่งได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวข้างต้น ได้ส่งสำเนาพยานหลักฐาน และสำเนาคำพิพากษาของศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องมาให้สมาคมฯหรือผู้ร้อง เพื่อนำมาประกอบการส่งให้ กกต.ได้พิจารณาลงโทษผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ด้วย สมาคมฯ จึงนำพยานหลักฐานมามอบให้ กกต. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยอาจสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือให้ใบส้มหรือใบแดงผู้สมัคร และอาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทยต่อไป