หุ้นไทยปิดลบ 2.67 จุด ขายทำกำไรหลังผู้ติดเชื้อเพิ่ม-หวั่นงบ Q3 แย่-กังวลเฟดลด QE

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,640.97 จุด ลดลง 2.67 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 84,963.95 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบหลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตในประเทศสูงขึ้น ทำให้ sentiment หุ้นกลุ่มเปิดเมืองเสียไป โดยมีแรงขายทำกำไรบางส่วน และปัจจัยลบต่างประเทศกังวลเฟดเร่งลด QE และขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบการเงินในไตรมาส 3/64 คาดหลาย Sector ออกมาไม่ดี หลัง TISCO เจ้าแรกลดลงทั้ง YoY และ QoQ แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่ง Sideway ให้แนวรับ 1,630 จุด แนวต้านที่ 1,655 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,640.97 จุด ลดลง 2.67 จุด (-0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 84,963.95 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,648.62 จุด และระดับต่ำสุด 1,637.42 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 604 หลักทรัพย์ ลดลง 1,094 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 542 หลักทรัพย์

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อน

ไหวกรอบแคบ วอลุ่มซื้อขายไม่มากนัก หลังจากรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้สูงขึ้น และผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ sentiment เสียไป โดยเฉพาะกลุ่มเปิดเมือง ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วน ส่วนผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้เป็นไปตามคาดเดินหน้าขั้นตอนเปิดเมือง ทำให้ยังเล่นกลุ่ม Reopening ได้บ้าง อาทิ AOT, ERW, CPALL, CPN, CRC มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเพราะได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศโดยตรง

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นลบ หลังจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คาดว่าจะเริ่มกลาง พ.ย.นี้โดยทยอยลดลงเดือนละ 1.2-1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอัตราดอกเบี้ยมีความเสี่ยงปรับขึ้นเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ในไตรมาส 4/65

รวมถึงการประกาศงบการเงินในไตรมาส 3/64 ที่กำลังทยอยประกาศคาดว่าหลาย sector จะออกมาไม่ดี โดยวันนี้ TISCO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ต่ำกว่าทั้ง QoQ และ YoY ทั้งนี้ แนะ selective buy เพราะแม้บ้านเราจะเปิดประเทศแต่ต่างประเทศก็ยังไม่เปิดให้มาเที่ยวไทย เช่น จีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดของไทย

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดแกว่งตัว Sideway ให้แนวรับที่ 1,630 จุด แนวต้านที่ 1,655 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,633.33 ล้านบาท ปิดที่ 67.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

U มูลค่าการซื้อขาย 3,371.56 ล้านบาท ปิดที่ 1.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.23 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,249.29 ล้านบาท ปิดที่ 4.24 บาท ลดลง 0.06 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,812.49 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,142.08 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ต.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top