ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.57 แข็งค่าต่อเนื่อง จับตาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง.ในสัปดาห์หน้า

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.57 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก
ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.74 บาท/ดอลลาร์  
          เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 35.54 - 35.86 บาท/ดอลลาร์ เงินเฟ้อเดือนก.
ค.ที่กระทรวงพาณิชย์รายงานวันนี้ น่าสนใจตรงที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ที่เพิ่มขึ้นถึง 2.99% ขึ้นไปใกล้แตะขอบบนของกรอบเป้า
หมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ 1-3% ซึ่งต้องจับตาไปที่การประชุม กนง.ในสัปดาห์หน้า
          "Core CPI เดือนก.ค.ขึ้นไปใกล้ 3% เกือบถึงขอบบนเป้าหมายเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ ก็น่าห่วง ทำให้ต้องจับตาประชุม กน
ง.สัปดาห์หน้า ซึ่งอาจมีกรรมการ กนง.บางเสียง อาจจะเสนอให้ขึ้นดอกเบี้ย 0.50%" นักบริหารเงินระบุ
          ส่วนคืนนี้ ตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.ของสหรัฐ
          นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50 - 35.80 บาท/ดอลลาร์

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 132.97 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 133.30 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0226 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0234 ดอลลาร์/ยูโร
          - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,601.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด (+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 58,838 ล้านบาท
          - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 837.44 ลบ. (SET+MAI)
          - ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ในเดือน ก.ค.65 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 
103.92 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 60.9% จากเดือนก่อนหน้ากลับมาอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" โดยนักลงทุนมองว่าการฟื้นต้วของภาคท่องเที่ยวจะเป็น
ปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมา คือนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
          - กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ค. 65 เพิ่มขึ้น 7.61% จาก
ช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นครั้งแรกในรอบปีที่เงินเฟ้อลดลงจากเดือนก่อนหน้า พร้อมกันนี้ ได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อสำหรับปีนี้ใหม่ 
เป็น 5.5-6.5% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 4.0-5.0% ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน 
          - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เตรียมเปิดทดสอบบริการสกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชน (Retail CBDC) ในระยะนำร่อง
ช่วงปลายปี 2565 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเป็นการเปิดทดลองใช้งานในวงจำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญในการศึกษา เพื่อเป็นต้น
แบบในการพัฒนาและขยายผลการใช้งานในระยะต่อไป
          - ทางการจีน ตัดสินใจสั่งคว่ำบาตรนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมถึงคนในครอบครัว เพื่อตอบโต้
การกระทำที่จีนมองว่าแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรง รวมทั้งเหยียบย่ำนโยบายจีนเดียว ภายหลังจากที่นางเพโลซี เดินทาง
ไปเยือนไต้หวัน
          - ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศเตือนว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี และ RBA อาจ
ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง และส่งผลให้เป็นการยากที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับ
สู่ภาวะปกติ
          - ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) อีก 0.50% สู่ระดับ 5.40% ใน
การประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในรอบหลายเดือน โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
          - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.,จำนวนผู้
ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.