วุฒิสภาลงมติเอกฉันท์ผ่านร่าง พ.ร.บ.กบข. ไม่ให้สิทธิถอนเงินสะสม 30% ซื้อที่อยู่อาศัย

รายงานข่าว แจ้งว่า การประชุมวุฒิสภาที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้ลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่งกรรมธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ด้วยเสียงเอกฉันท์ 193 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง

โดยผลการพิจารณาของ กมธ.ฯ ได้แก้ไขเนื้อหาที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบจำนวน 1 มาตรา ด้วยการตัดมาตรา 5 ซึ่งเพิ่มมาตรา 43/1 ของร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 ที่ให้สิทธิสมาชิกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป มีสิทธิขอรับเงินจากกองทุนไม่เกิน 30% ของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนที่บันทึกไว้ในบัญชีรายบุคคลเพื่อใช้จ่าย โดยวัตถุประสงค์เฉพาะแต่ในการจัดหาที่อยู่อาศัยของตนได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

ทั้งนี้ในรายงานของ กมธ.ฯ ได้ระบุถึงเหตุผลการตัดมาตราดังกล่าว เพราะกังวลถึงสภาพคล่องของกองทุนฯ เนื่องจากตาม พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญฯ (กบข.) กำหนดให้สมาชิกส่งเงินสะสมขั้นต่ำ 3% ของเงินเดือน และรัฐส่งเงินสมทบอีก 3% ของเงินเดือน และเงินชดเชยอีก 2% ของเงินเดือน เพื่อให้ กบข.บริหารให้เกิดดอกผลได้สะสมไว้ในบัญชีรายบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีเงินออมที่เพียงพอเมื่อข้าราชการเกษียณอายุราชการ ดังนั้นการออมดังกล่าวจึงมีจำนวนไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์อื่น อีกทั้ง กบข.ไม่มีวัตถุประสงค์และภารกิจโดยตรงในการจัดสรรเงินเพื่อหาที่อยู่อาศัยให้แก่สมาชิก

“เหตุผลที่ต้องตัดมาตรา 5 เพื่อลดปริมาณเงินออม และสูญเสียโอกาสบริหารเงินออม กบข.มีสมาชิก 1.1 ล้านคน มีเงินกองทุนส่วนสมาชิก 464 ล้านบาท มีผลตอบแทนลงทุนเฉลี่ยตั้งแต่ปี 40-65 อยู่ที่ 5.9% หากนำเงิน กบข.ออกมาก่อน 30% เพื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัย จะมีแนวโน้มที่ทำให้สมาชิกได้รับผลตอบแทนที่ลดลง” รายงาน กมธ.ฯ ระบุ

ขณะที่การอภิปรายของ ส.ว.โดย พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. ให้ข้อสังเกตว่า การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ของวุฒิสภา ต้องนำไปสู่การตั้ง กมธ.ร่วมฯ ซึ่งการพิจารณาที่ผ่านมามักถูก ส.ส.เหน็บแนม อภิปรายกล่าวหาโจมตี ส.ว.ว่าดูร่างกฎหมายไม่เป็น ไม่ละเอียด ไม่เห็นหัวประชาชน ทั้งนี้มาตราดังกล่าวที่ถูกเพิ่มเติมมาในชั้นสภาฯ ซึ่งได้รับเสียงเอกฉันท์ ทำให้ ส.ส.ภูมิใจมาก ดังนั้น ส.ว.ควรใส่เหตุผลที่อธิบายได้ทุกแง่มุม

“สมาชิกเป็นหมื่นขอกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน กองทุนฯ อาจพร่องสภาพคล่อง ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเขียนรายละเอียดไว้ให้ชัดเจน” พล.อ.ต.เฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายพรเพชร กล่าวว่า ตนเคยเป็นสมาชิกกองทุน กบข. และเป็นกรรมการทราบว่ากองทุนฯ นี้มีลักษณะพิเศษ เพราะเงินในกองทุนฯ ไม่ใช่เงินสมาชิกเท่านั้น เพราะมีเงินของรัฐบาลสมทบ การนำเงินเข้าและออกมักจะมีปัญหา ตนเข้าใจว่าการแปรญัตติของสมาชิกต้องการให้เป็นแบบนั้น สมาชิก กบข.อยากได้เงินมาก่อนเหมือนฝากเงิน แต่ กบข.ต้องการให้เงินเมื่อเกษียณอายุแล้ว แต่หากเกษียณอายุแบบไม่สวย จะไม่ได้เงินสมทบ ดังนั้นขอให้ กมธ.ร่วมฯ ไปพิจารณารายละเอียด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top