ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโมฮัมเหม็ด เชีย อัล-ซูดานี นายกรัฐมนตรีอิรัก เกี่ยวกับความพยายามของชาติตะวันตกในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย
ปธน.ปูตินกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวขัดแย้งกับกลไกตลาด และจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาดพลังงานระหว่างประเทศ
นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะไม่จัดส่งน้ำมันให้แก่กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย
"เรากล่าวมาโดยตลอดว่า การกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียเป็นนโยบายที่ต่อต้านระบบตลาด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และทำให้สถานการณ์ในตลาดพลังงานโลกเลวร้ายลง โดยรัสเซียจะไม่จัดส่งน้ำมันให้แก่กลุ่มประเทศที่เข้าร่วมการกำหนดเพดานราคาน้ำมันต่อรัสเซีย" นางมาเรียกล่าว
นอกจากนี้ นางมาเรียกล่าวว่า "ผู้ผลิตน้ำมันจากหลายประเทศก็ได้คัดค้านมาตรการดังกล่าวเช่นกัน โดยมองว่าหากชาติตะวันตกใช้มาตรการดังกล่าวต่อรัสเซียในวันนี้ พวกเขาก็จะใช้มาตรการนี้กับประเทศอื่นในวันข้างหน้าเช่นกัน"
Politico ซึ่งเป็นสื่อสหรัฐ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) ยังคงไม่สามารถบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตจาก 27 ประเทศของ EU หารือข้อเสนอของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 ในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
สมาชิกส่วนใหญ่ของ EU เห็นพ้องกับข้อเสนอดังกล่าวของ G7 แต่โปแลนด์ต้องการให้มีการกำหนดเพดานราคาที่ระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ โปแลนด์ต้องการให้มีการนำประเด็นการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียพ่วงเข้ากับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่
G7 รวมทั้ง EU และออสเตรเลียมีกำหนดบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน
การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าวถือเป็นมาตรการลงโทษต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเมื่อมีการประกาศใช้จะทำให้บริษัทเดินเรือ, บริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันภัยต่อ ไม่สามารถให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งคาร์โกน้ำมันรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานที่ G7 และพันธมิตรกำหนดไว้
