ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าพักตัวตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะพักตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมรอบวันที่ 14-15 ธ.ค.64 ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงการปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ทันทีหลังจากเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถือเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกพักตัว เพราะหมายความว่าสภาพคล่องจะเริ่มลดลง จึงเป็นลบกับหุ้นที่ P/E แพงๆ หรือหุ้นที่มี Valuation สูง เช่น หุ้นเทคโนโลยี ขณะที่บ้านเรา แม้ไม่ได้มีหุ้นเทคโนโลยีโดยตรง แต่อาจมีผลต่อหุ้นอิเล็กทรอนิกส์

ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,665 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด

ขณะที่ บทวิเคราะห์ของ บล.ไอร่า ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. มาผ่านมา โดยซื้อไปแล้วกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท สะท้อนมุมมองที่ดีต่อภาพเศรษฐกิจไทยที่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3/64 และจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ดีขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ เชื่อว่านักลงทุนสถาบันยังมีโอกาสพลิกกลับมาซื้ออีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลาง-ปลายเดือน ม.ค.หลังผ่านพ้นการไถ่ถอนกองทุน LTF มองเป็นบวกต่อกลุ่ม Big Cap โดยเฉพาะแบงก์ธนาคาร (KBANK, SCB, TTB) ที่คาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสามารถทำให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นขาขึ้น พร้อมทั้งการตั้ง ECL ที่คาดจะเริ่มปรับลดลงตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 1/65

รวมทั้งหุ้นในกลุ่ม EV Play (EA,GPSC,HANA และ SAT) ตามแนวโน้มการผลักดันการใช้รถไฟฟ้า (EV) ของไทย ที่ตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการผลิตทั้งหมดภายในปี 73 และคาดว่าจะเริ่มเห็นการออกมาตรการกระตุ้นและสนับสนุนที่ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ปีนี้

ขณะที่ยังต้องติดตามเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมขายหุ้น (Financial transaction tax) อัตรา 0.1% จากมูลค่าการขาย คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยบ้าง