World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 200 จุดในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (Defensive Stocks) เช่น หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด


-- หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 5.28% หลังบริษัทเปิดเผยว่าวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐแล้วในขณะนี้

ทั้งนี้ โมเดอร์นาวางแผนที่จะยื่นขออนุมัติต่อหน่วยงานด้านกฎระเบียบของสหรัฐ เพื่อใช้วัคซีนดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า mRNA-1273.214 ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ (เดือนก.ย.-พ.ย.)


-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ความมุ่งมั่นของเฟดในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีนั้น "ไม่มีเงื่อนไข" แต่ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่การว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายพาวเวลได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%


-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียจะจัดหาวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย (foot and mouth disease) จำนวน 28.7 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ และจะจำกัดการขนส่งปศุสัตว์ระหว่างภูมิภาค เนื่องจากการติดเชื้อโรคดังกล่าวพุ่งสูงขึ้น


-- ยูเครนได้รับสถานะประเทศผู้สมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) แล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ช่วยสร้างขวัญกำลังใจของประเทศ ขณะที่การต่อสู้กับกองทัพรัสเซียในเมืองสองแห่งทางฝั่งตะวันออกมาถึงจุดที่น่าสะพรึงกลัวตามคำบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง


-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้มีการชะลอตัวลงบางส่วนก็ตาม

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. แต่ยังสูงกว่าจำนวนที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย

ส่วนค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์นั้น เพิ่มขึ้น 4,500 ราย สู่ระดับ 223,500 ราย


กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมิ.ย. เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในวงกว้าง ซึ่งส่งผลให้ยอดสั่งซื้อใหม่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี

เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยลดลงจากระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคเอกชนยังคงมีการขยายตัว แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 0.75% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา


-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย