เครมลินเตือนตะวันตกคิดให้ดีหากจะแบนชาวรัสเซียตามเสียงเรียกร้องยูเครน

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวเรียกร้องให้ชาติตะวันตกประกาศห้ามชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศ ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผล

นายเพสคอฟกล่าวว่า ชาติตะวันตกจะต้องตัดสินใจในที่สุดว่าพวกเขาพร้อมที่จะแบกรับความเสียหายจาก "แนวคิดที่ฝันเฟื่อง" ของปธน.เซเลนสกีหรือไม่

นอกจากนี้ นายเพสคอฟระบุว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่รัสเซียจะถูกตัดขาดจากชาติอื่นในโลก

ทั้งนี้ ปธน.เซเลนสกีกล่าวเรียกร้องให้ชาติตะวันตกประกาศห้ามชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะเป็นแนวทางสกัดกั้นไม่ให้รัสเซียผนวกดินแดนเพิ่มเติมจากยูเครน

"การคว่ำบาตรที่สำคัญที่สุดคือการปิดชายแดน เพราะขณะนี้รัสเซียกำลังพยายามยึดดินแดนของชาติอื่น โดยชาวรัสเซียควรอยู่ในโลกของตนเองจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงปรัชญาของพวกเขา" ปธน.เซเลนสกีกล่าว

อย่างไรก็ดี บางฝ่ายได้คัดค้านเสียงเรียกร้องของปธน.เซเลนสกี โดยระบุว่า การประกาศห้ามชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศตะวันตกจะส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และการบุกโจมตียูเครน

ด้านนายเพสคอฟกล่าวว่า รัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีที่ประชาชนในแคว้นเคอร์ซอนและซาโปริซเซีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคโดเนสก์ และทางตะวันออกของภูมิภาคลูฮันสก์ของยูเครน จะจัดทำประชามติเกี่ยวกับการแยกตัวจากยูเครนเพื่อผนวกรวมเข้ากับรัสเซีย

นายเพสคอฟกล่าวว่า การทำประชามติเป็นความต้องการของประชาชนในภูมิภาคดังกล่าว และปธน.เซเลนสกีไม่มีสิทธิที่จะดึงรัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว

"เราไม่ได้เป็นคนทำประชามติ แต่นี่เป็นแผนของประชาชนในภูมิภาค โดยเซเลนสกีควรหันไปถามประชาชนของเขาว่าเหตุใดคนเป็นจำนวนมากถึงไม่ต้องการอยู่ในประเทศของเขา" นายเพสคอฟกล่าว

ก่อนหน้านี้ ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า หากมีการจัดทำประชามติในแคว้นเคอร์ซอนและซาโปริซเซีย การเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้

แหล่งข่าวระบุว่า รัสเซียเตรียมจัดการทำประชามติในดินแดนยูเครนที่กองทัพรัสเซียสามารถยึดครอง โดยการทำประชามติจะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ย. เพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ผนวกดินแดนดังกล่าวเข้ากับรัสเซีย