(เพิ่มเติม1) ศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ยุบศบค. หลังสถานการณ์โควิดดีขึ้น

พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบยกเลิกประกาศการบังคับใช้พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งบรรดาข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้อำนาจแห่งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งหมด โดยสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 65 เป็นต้นไป กลับไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558

เนื่องจาก ที่ประชุมได้พิจารณาว่าปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในภาพรวมทั่วโลก มีแนวโน้มที่ดีขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศไทย โดยมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่และแนวโน้มผู้เสียชีวิตลดลง

นอกจากนี้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถดำเนินชีวิตและขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกิจกรรมทางสังคมเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขได้มีการปรับโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายให้เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง และได้มีการจัดทำกรอบนโยบายและแนวปฎิบัติของภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน อย่างชัดเจนแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ก็จะทำให้การทำหน้าที่ของ ศบค. ยุติไป รวมถึงศูนย์ต่างๆ ทั้ง 9 ศูนย์ของ ศบค.ก็ต้องยุติไปด้วย และ ใช้กลไกปกติในการดำเนินการ

พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จะนำเรื่องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า และกลไกจากนี้จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นผู้ดูแล

อย่างไรก็ตาม หากมีการกลับมาระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น ก็สามารถประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินได้อีก ซึ่งในประเทศไทยหากมีเรื่องใดที่วิกฤตที่ครม.เห็นว่า ต้องใช้กฎหมายพิเศษก็สามารถทำได้ ซึ่งในเรื่องของโควิด-19 ก็จะใช้กลไกผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง กทม. และต่างจังหวัด ก็เป็นกลไกหนึ่ง ในคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ก็สามารถใช้อำนาจในการประกาศเป็นโรคระบาดได้ และใช้กฎหมายที่ตนเองมีอยู่ดำเนินการได้เลย