นายกฯ สั่งทุกหน่วยเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนปชช.ครอบคลุมทุกมิติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในประเด็นสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เตรียมขึ้นราคาว่า ขณะนี้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ พยายามดูแลเพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภคมากที่สุด

ส่วนการแก้ปัญหาปัญหาราคาพลังงาน จะส่งแรงกดดันมายังรัฐบาลหรือไม่นั้น นายธนกร กล่าวว่า ในเรื่องนี้ส่งกระทบในหลายส่วน ทั้งค่าครองชีพของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการมาก่อนหน้านี้ ในการออกมาตรการต่างๆ ในการแก้ปัญหาพลังงาน พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน รวมถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ มาโดยตลอด และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งได้ทำงานอย่างเต็มที่

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกรัฐมนตรี มอบหมายสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาเป็นตัวหลักในการแก้ไขปัญหาราคาพลังงานนั้น นายธนกร ชี้แจงว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมองว่าในอนาคตสถานการณ์วิกฤตพลังงานมาจากต่างประเทศ และส่งผลกระทบมายังประเทศไทย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาต่างๆ ต้องใช้เวลา ซึ่งการที่มอบหมายให้ สมช.มาดูแลนั้น เป็นเพียงเจ้าภาพเตรียมข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง การทหาร และพลังงานในทุกมิติ โดยมีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วม จึงมองว่า เป็นสิ่งใหม่ที่นายกรัฐมนตรีมีวิสัยทัศน์ในการมองสถานการณ์ไปในอนาคต และนายกรัฐมนตรีก็ประชุมทุกหน่วยงาน แต่ สมช. เป็นแค่หน่วยงานประสานงาน โดยที่มีแต่ละกระทรวงเป็นหน่วยงานสนับสนุน

ส่วนประเด็นรถโดยสารเอกชนเตรียมปรับลดเที่ยวการเดินรถนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการลดจำนวน และกระทรวงคมนาคมกำลังเจรจาอยู่ รวมไปถึงได้มีแผนสำรองไว้แล้ว ในการเตรียมการแก้ไขปัญหา หากมีส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยสั่งการให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เตรียมการไว้แล้ว

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกในสิงค์โปร์นั้น นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เฝ้าระวัง คัดกรอง เตรียมการเตรียมห้องแล็ป และเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก รวมไปถึงดูแลตนเองอย่างเคร่ง ภายใต้มาตรการ Universal prevention

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแนะนำประชาชนให้หมั่นสังเกตและประเมินตนเองตลอดเวลา และยังคงต้องปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด แม้สถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตทรงตัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ซึ่งการดูแลสุขภาพตนเองตลอดเวลา ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมของคนไทยสำหรับการผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 และยังเป็นหัวใจสำคัญในการพยายามปรับตัวให้อยู่ร่วมกับโควิด-19 ด้วย

สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายธนกร กล่าวว่า ช่วงนี้รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาให้กับประชาชน จากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครนและโควิด-19 อีกทั้งในช่วงอภิปรายจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นส่วนตัวมองว่าที่ฝ่ายค้านขอใช้เวลา 5 วันนานเกินไป ซึ่งเข้าใจว่าวิปรัฐบาลจะมีการหารือกัน

พร้อมยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมชี้แจงทุกเมื่อ ขณะที่ทีมโฆษกรัฐบาลก็มีการเตรียมการชี้แจงร่วมด้วย ซึ่งทุกวันนี้มีการติดตามทุกเรื่องและเตรียมการชี้แจงไว้อยู่แล้ว แต่คงไม่ถึงขนาดตั้งวอร์รูมและตอบโต้ทันที เพราะวันนี้ประชาชนยังเดือดร้อนอยู่ ดังนั้นการตอบโต้ทางการเมืองอาจไม่เกิดประโยชน์มากนัก แต่จะเป็นการชี้แจงสร้างความรับรู้ที่ถูกต้องให้ประชาชนมากกว่า

นายธนกร ยังชี้แจงถึงการเปลี่ยนเปลี่ยนบุคลิกของนายกรัฐมนตรีที่สงวนท่าทีในการให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนชี้แจงแทน เพราะนายกรัฐมนตรีมีงานค่อนข้างมาก รวมถึงมีแฟ้มเอกสารที่ต้องพิจารณา และลงพื้นที่ต่างจังหวัดติดตามการดำเนินงานตามนโยบายโครงการของรัฐบาลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

พร้อมยืนยันว่า คงไม่ได้เป็นการปรับท่าทีใหม่ของนายกรัฐมนตรี และเชื่อมั่นว่าประชาชนเข้าใจการทำงานว่านายกรัฐมนตรีที่เป็นคนแบบนี้และตั้งใจ มุ่งมั่นในการทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ





โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มิ.ย. 65)

Tags: , , , , , ,
Back to Top