ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อสอดคล้องคาดการณ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (12 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และยอดค้าปลีก

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.74% แตะที่ 94.9201 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.40 เยน จากระดับ 115.36 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9135 ฟรังก์ จากระดับ 0.9237 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2501 ดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2581 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1448 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1366 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3711 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3627 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7290 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7208 ดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.0% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525 อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของสหรัฐที่ออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์นั้น จะไม่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วไปกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้หากพบว่าเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ

นักลงทุนจับตาคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาของสหรัฐซึ่งจะพิจารณารับรองการแต่งตั้งนายพาวเวลเป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 ทั้งนี้ แม้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมาธิการฯ นายพาวเวลก็ยังจำเป็นต้องผ่านการพิจารณาจากวุฒิสภาทั้งคณะ โดยเขาจะต้องได้รับการรับรองจากเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน