ทีวีดิจิทัล

ในปี 2564 ทีวีดิจิทัลเป็นหนึ่งในสื่อที่น่าจะถูกจับตาและได้รับความสนใจหลังจากที่การแพร่ระบาดของโรคิดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำให้ประชาชนใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารจากทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากข้อมูลการรับชมรายการข่าวทางทีวีดิจิทัลในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2563 นั้น ชั่วโมงการรับชมรายการข่าวจากทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2 ชั่วโมง 6 นาที นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์เกี่ยวกับเม็ดเงินโฆษณาในปี 2564 ที่คาดว่า จะฟื้นตัวขึ้น หากการระบาดของโควิด-19 ไม่ยืดเยื้อ ทีวีดิจิทัลจึงเป็นสื่อที่มีแนวโน้มว่า จะฟื้นตัวและได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มของเม็ดเงินโฆษณา ภายหลังจากที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากการคืนใบอนุญาตประกอบการ การแข่งขันกับสื่ออื่น ๆ อย่างโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าเม็ดเงินจากโฆษณาจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ แต่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลหลายรายต่างก็ใช้ความพยายามที่จะหารายได้เพิ่มเติมจากแหล่งรายได้อื่น ๆไม่ว่าจะเป็นการนำคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นเองไปเผยแพร่บนบริการสตรีมมิ่งหรือขายลิขสิทธิ์ละครให้กับผู้ประกอบการในต่างประเทศ รวมทั้งการจัดกิจกรรมเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการจัดอีเวนท์กับบรรดาแฟนคลับของศิลปิน ดารา นักแสดงที่ได้รับความนิยมจากรายการหรือละครในสังกัด ตลอดจนการปรับลดค่าใช้จ่ายลง ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรและลดจำนวนพนักงาน

ละครช่อง 33HD บุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน

ประเทศเวียดนามเป็นประเทศเพื่อนบ้านอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสนใจคอนเทนต์ประเภทละครของไทย โดย บมจ.บีอีซี เวิลด์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบโทรทัศน์ดิจิทัลช่อง 33HD ได้ทำข้อตกลงกับ DatViet บริษัทด้านสื่อในเวียดนาม เพื่อนำละครเรื่อง “เล่ห์บรรพกาล”ออกอากาศในเวียดนามพร้อมกับประเทศไทยแบบคู่ขนาน (Simulcast) บนแพลตฟอร์ม VieOn (OTT)  ซึ่งเป็นการออกอากาศในภาษาไทย พร้อมคำบรรยายภาษาเวียดนามเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563

ที่มา: https://www.ch3thailand.com/news/scoop/18735

การเผยแพร่ผลงานละครของช่อง 3 พร้อมกับบนแพลตฟอร์ม VieOn ของ DatViet ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจสื่อของเวียดนาม ถือเป็นมิติใหม่ในการตอบสนองความต้องการของผู้ชมชาวเวียดนามที่นิยมชมชอบนักแสดงและละครของเรา และเป็นการขยายฐานผู้ชมละครช่อง 3 ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการเผยแพร่ละครอย่างถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าละครเล่ห์บรรพกาล จะประสบความสำเร็จในประเทศเวียดนามเป็นอย่างดีครับ

การปรับโครงสร้างองค์กร

การปรับโครงสร้างขององค์กรเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของทีวีดิจิทัล แม้ว่า บีอีซี เวิลด์ จะเดินหน้าขายลิขสิทธิ์งานละครและเผยแพร่บนบริการสตรีมมิง เพื่อหารายได้เพิ่มเติมแล้ว แต่ช่อง 33HD ก็เป็นทีวีดิจิทัลอีกช่องที่ต้องปรับโครงสร้างองค์กรและเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง และสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของช่อง 3 ก็มีมาโดยตลอด โดยเริ่มจากนายประชุม มาลีนนท์ รองประธานกรรมการ, ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการลงนาม ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท โดยให้เหตุผลในเรื่องปัญหาด้านสุขภาพ มีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563  ซึ่งเป็นวันครบรอบ 50 ปีช่อง 33HD

หลังจากนั้น จึงตามมาด้วยการลาออกของนายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.บีอีซี เวิลด์ ที่ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ และ กรรมการบริษัท เนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2563 การประกาศลาออกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการย้ายมารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการของบีอีซี เวิลด์ ได้เพียง 1 ปี 2 วัน ภายหลังการลาออกของนายอริยะก็มีการแจ้งลาออกของ 2 ผู้บริหารที่นายอริยะเป็นผู้ชักชวนเข้ามาร่วมงานในช่วงกลางเดือนเมษายน 2563 อย่างนายสุชาติ ภวสิริพร รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักทรัพยากรบุคคล (EVP Human Resources) และนางวัชรี  ศิริเวชวิวัฒน์  รองกรรมการผู้อำนวยการ  สำนักงานพาณิชย์  (EVP Commercial)  ดูสายงานการตลาด

การประกาศเลิกจ้างพนักงาน

นอกจากการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้บริหารแล้ว ช่อง 3 ได้ประกาศโครงการเลิกจ้างพนักงาน หลังจากที่ได้ปรับลดจำนวนพนักงานมาแล้วก่อนหน้านี้เมื่อครั้งคืนใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัลไป 2 ช่อง การปรับลดพนักงานในครั้งนี้เป็นการปรับตัวเนื่องจากรายได้ที่ลดลง (รายได้ไตรมาส 3 ปี 2563 ของช่อง 3 อยู่ที่ 1,183.8 ล้านบาท ลดลง 908.5 ล้านบาท หรือ 43.4% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562)

GMM จับมือ VLIVE จัดงาน Global Live Fan Meeting ผ่านไลฟ์สตรีมมิง

ที่มา: ryt9.com

นอกจากการขายลิขสิทธิ์การเผยแพร่คอนเทนต์ในต่างประเทศแล้ว การจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เป็นอีกช่องทางในการหารายได้ของทีวีดิจิทัล GMMTV ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการบันเทิง ละคร และซีรีส์ ให้กับทางช่อง GMM25 ได้ร่วมมือกับ “VLIVE” แอปพลิเคชันออนไลน์จากเกาหลีใต้ จัดงาน “Global Live Fan Meeting” ในไทย เพื่อให้แฟนคลับจากทั่วโลกได้พบปะกับนักแสดงขวัญใจของตนเองในช่วงโควิด-19  ผ่านทางแอปพลิเคชัน VLIVE+ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน 2563

นอกจากจะจัดงานให้บรรดาแฟนคลับแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังร่วมกันต่อยอดกิจกรรมด้วยการจัดงาน Online Music Festival ด้วยการชูจุดเด่น 6 ข้อ ได้แก่

1. ไม่จำกัดจำนวนผู้ซื้อบัตรจึงทำให้สามารถรองรับความต้องการของแฟน ๆ ได้อย่างไม่จำกัด

2. สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกที่มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

3. ผู้ชมสามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์รูปแบบใหม่ของคอนเสิร์ตออนไลน์ผ่าน AR Technology

4. ผู้ชมสามารถแสดงตัวตนบนหน้าจอที่อยู่บนเวที พร้อมส่งคอมเมนต์สด ๆ ระหว่างการแสดง และทักทายพูดคุยได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Virtual Meeting

5. สามารถชมแบบเสียงภาษาไทย และเลือกรับชมพร้อมคำบรรยายได้ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน

6. ราคาบัตรสุดคุ้มที่สามารถรับชมได้ทั้ง 2 วัน ในราคาเพียง 600 VCoins (ประมาณ 350 บาท)

งานดังกล่าว ได้มีการนำศิลปินที่ได้รับความนิยม อาทิ  เป๊ก ผลิตโชค, พาราด็อกซ์, เคลียร์, อะตอม, ทเว้นตี้ไฟว์เอาเออร์ส, ค็อกเทล, โลโมโซนิก, เกทสึโนวา, เดอะเยอร์ส, ไททศมิตร, มียู, เลซี่ล็อกซี่, มิลลิ, ไมยราพ, สนามหลวงมิวสิก, ทรีแมนดาวน์, ทิลลี่เบิร์ดส์, อนาโตมี่ แรบบิต และ เซฟแพลนเน็ต มาร่วมงาน โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะนำไปร่วมสมทบทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของศูนย์วิจัยวัคซีน  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผลพวงจากสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบต่อการลงโฆษณา

นอกเหนือไปจากผลกระทบจากเศรษฐกิจแล้ว ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ร้อนแรงก็ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลบางช่องเช่นกัน ในช่วงปลายปี 2563 กระแสในโลกโซเชียลมีเดียที่ได้มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการอุดหนุนสินค้าของแบรนด์หรือบริษัทที่ลงโฆษณากับทีวีดิจิทัลอย่างเนชั่นทีวีนั้น ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมตามมาทั้งฝั่งแบรนด์สินค้าและผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัลเอง  

หนึ่งในบริษัทที่ได้ออกแถลงการณ์ประกาศระงับการโฆษณาทางเนชั่นทีวีอย่างเป็นทางการคือ บริษัท ฟู้ดแพนด้า (ไทยแลนด์) จำกัด

ที่มา: https://www.facebook.com/FoodpandaThailand

ตามมาด้วยบริษัทยันฮี วอเตอร์ จำกัด ก็ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันระงับการโฆษณากับทางเนชั่นทีวี 

แต่ทว่า ไม่ได้มีแต่เนชั่นทีวีเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง วอยซ์ทีวี ซึ่งเป็นหนึ่งในทีวีดิจิทัลที่ได้คืนใบอนุญาตประกอบการไปเมื่อปี 2562 และปัจจุบันออกอากาศในฐานะทีวีดาวเทียมก็ได้รับผลกระทบจากการเมืองเช่นกัน

โดยในวันที่ 20 ตุลาคม 2563 นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ตำแหน่งในขณะนั้น) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคำสั่งจากศาลสั่งปิดวอยซ์ทีวีบนทุกแพลตฟอร์ม เนื่องจากกระทำการเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งต้องปิดโดยทันทีและไม่สามารถขออุทธรณ์ได้เนื่องจากเป็นการดำเนินการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

อย่างไรก็ตาม ให้หลังเพียง 1 วัน ศาลได้ตัดสินให้ยกเลิกคำสั่งเดิมให้ปิดวอยซ์ทีวี และให้ยกเลิกทุกคำร้อง เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าคำร้องขอไม่แสดงเหตุชัดเจน โดยระบุว่า ผู้ร้องไม่ได้แสดงให้ชัดเจนว่าเป็นการขอให้ปิดสื่อทั้งช่องทาง ทำให้ศาลไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง แต่เข้าใจว่าเป็นการปิดกั้นเฉพาะเนื้อหาบางส่วนที่นำเสนอต่อศาล ดังนั้น คำสั่งดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง จึงให้ยกเลิกคำสั่งศาลที่ให้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลก่อนหน้านี้

ที่มา: https://www.facebook.com/yanheevitaminwater/

การเปลี่ยนแปลงส่งท้ายปี 2563 และการเปิดตัวของ TOP News

ด้วยผลพวงจากสถานการณ์การเมืองที่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของทีวีดิจิทัล ความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเนชั่นทีวีในช่วงท้ายปี 2563 และการเปิดตัวของสถานีโทรทัศน์ช่องท็อปนิวส์ (TOP NEWS) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ก็เป็นความเคลื่อนไหวที่สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและการเอาตัวรอดของทีวีดิจิทัลด้วยเช่นกัน

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 นั้น กลุ่มผู้ประกาศที่มีชื่อเสียงของเนชั่นทีวีและผู้บริหารบางส่วนได้ประกาศลาออกหลายราย

ไม่ว่าจะเป็นนางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ผู้ดำเนินรายการ เนชั่นทันข่าวเที่ยง, นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ดำเนินรายการ ขยี้ข่าวเช้า, เนชั่นทันข่าวเย็น, ขยี้คดีโกง และข่าวมีระดับ, นายสถาพร เกื้อสกุล ผู้ดำเนินรายการ เนชั่นเจาะข่าวเช้า และ เนชั่นเจาะข่าว, นางสาวอุบลรัตน์ เถาว์น้อย ผู้ดำเนินรายการ เนชั่นเจาะข่าว, นายกนก รัตน์วงศ์สกุล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานผู้ประกาศข่าว บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินรายการ เนชั่นคนข่าวเข้ม, ข่าวข้นคนเนชั่น, ข่าวมีระดับ และ LINE กนก ปี 7 ลาออกพร้อมกับ นางลักขณา รัตน์วงศ์สกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสนับสนุนองค์กร ซึ่งเป็นภรรยาของนายกนก, นายธีระ ธัญไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการ เนชั่นคนข่าวเข้ม, ข่าวข้นคนเนชั่น, ข่าวมีระดับ และ ชั่วโมงสืบสวน

ภายหลังการลาออกของกลุ่มผู้ประกาศดังกล่าว ทีมผู้บริหารของเนชั่น ซึ่งประกอบด้วย นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), นายสุภวัฒน์ สงวนงาม กรรมการผู้จัดการบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการอาวุโสเครือเนชั่น, นายปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี, นางสาวนิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ ประธานสหภาพแรงงานเครือเนชั่น และนายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเนชั่น ก็ได้ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563

เนชั่นเป็นองค์กรที่มีอายุ 49 ปี ก้าวสู่ปีที่ 50 ในปีหน้า การที่มีบุคลากรที่มีคุณภาพ ที่ตั้งใจทำงานเพื่อองค์กร ลาออกไปตามวิถีชีวิต ตาม career path ตามความฝันของเขา มันเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ องค์กรของเราเป็นองค์กรข่าวอันดับ 1 ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาโดยตลอด เราไม่ได้ขายดาราหรือผู้ประกาศ แต่เราขายความน่าเชื่อถือ ขายความจริง เราเป็นดั่งแสงเทียนนำทางของสังคมในยามที่มืดมิด เราเป็นดั่งกระจกสะท้อนสังคมที่บิดเบี้ยว ในขณะเดียวกันเราก็ต้องไม่ทำตัวเป็นกระจกที่บิดเบี้ยวเสียเองด้วย เราขายความรับผิดชอบต่อสังคม นี่คือองค์กรของเรา

การแถลงข่าวดังกล่าวตามมาด้วยการทาบทามนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้มีประสบการณ์ทำงานในสายข่าวและคอนเทนต์มาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น บอรดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2558 และในที่สุดนายอดิศักดิ์ก็ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ของเนชั่นทีวี

เนชั่นทีวีปรับกลยุทธ์ภายใต้ผู้บริหารใหม่

หลังจากที่นายอดิศักดิ์ได้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ของเนชั่นทีวี ทางเนชั่นทีวีก็ได้จัดงาน Nation TV Open house ขึ้น เพื่อแถลงทิศทางการดำเนินงานในปีหน้า รวมถึงปรับผังรายการครั้งใหม่ และเปิดตัวผู้ประกาศข่าวคนใหม่ 8 ราย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563

นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนชั่นเป็นองค์กรที่มีอายุถึงครึ่งศตวรรษ เนชั่นเหมือนต้นไม้ใหญ่ แม้จะผ่านการเปลี่ยนแปลงมามากมายแต่ก็ไม่ได้แตกสลาย เป็นแค่การผลัดใบ แก่นขององค์กรยังคงเหมือนเดิม เนชั่นคือสื่อมวลชน เป็นเสมือนหมาเฝ้าบ้าน คอยดูแลปกป้อง 3 สถาบันสำคัญคือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์มาโดยตลาดและไม่มีเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาเนชั่นเจออุปสรรคต่าง ๆ มากมาย แต่ยังคงมุ่งมั่นในอุดมการณ์และหน้าที่อย่างแน่วแน่ 50 ปีที่ผ่านมา เนชั่นเป็นโรงเรียนที่สร้างคน และคนที่เติบโตออกไปจากเนชั่น ก็มีหน้าที่ไปสร้างชาติต่อในวิถีทางที่แตกต่างกันไป และเนชั่นยังคงเดินหน้าทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ดีที่สุด ตามเจตนารมณ์ของการเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพต่อไป

นายอดิศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2564 เนชั่นจะมีอายุครบ 50 ปี และเนชั่นทีวีจะก้าวสู่ปีที่ 21 และกำลังมุ่งมั่นกลับสู่เส้นทางความเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ และยังเปิดให้ผู้บริโภคข่าวสารสามารถแสดงความเห็นได้อย่างใกล้ชิด โดยจะส่งผ่านข่าวสารและความรู้ไปในทุกแพลตฟอร์มของโลกดิจิทัลเพื่อให้เข้าถึงทุกภาคส่วนของสังคมไทย

นายอดิศักดิ์ระบุว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา กองบรรณาธิการเนชั่นและสื่อในเครือได้ปรับโครงสร้างฝ่ายข่าวครั้งใหญ่ โดยมีการสร้างระบบโต๊ะข่าว เพื่อกลั่นกรองทุก ๆ คอนเทนต์ให้มั่นใจได้ว่าจะได้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือสูงสุดก่อนนำเสนอ และยังวางกลุ่มเป้าหมายการรายงานข่าวแต่ละประเภทให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยทีมเนชั่นทีวีจะเน้นการรายงานข่าวการเมือง การตรวจสอบนโยบายสาธารณะ เช่น การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อมกระบวนการยุติธรรมและคุณภาพชีวิต ข่าวประเทศอาเซียนและการเมืองโลก ส่วนข่าวเศรษฐกิจและธุรกิจจะให้ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจกับฐานเศรษฐกิจที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมากมายมาป้อนให้ช่องเนชั่นทีวี และข่าวอาชญกรรม บันเทิง ศิลปวัฒนธรรมและกีฬาจะอยู่ในทีมข่าวคมชัดลึกที่ปัจจุบันเน้นหนักผ่านออนไลน์และโซเชียลมีเดีย

นายอดิศักดิ์ยังกล่าวด้วยว่า จะปรับสัดส่วนเนื้อหาข่าวและรายการให้มีความหลากหลายและทันสมัยมากขึ้น เพื่อขยายฐานผู้ชมไปทุกกลุ่มอายุ

นอกจากนี้ เนชั่นทีวียังได้ระบุถึง 3 โครงการที่สำคัญ ได้แก่

  • Nation Sitcom ละครซีรีส์ ในชื่อ “ประชาธิปไตยตั้งไข่”
  • Nation The debate การแข่งขันโต้วาทีระดับมัธยมปลาย ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมปลายเข้าแข่งขันเพื่อชิงทุนการศึกษา ดำเนินการโต้วาทีโดยอาจารย์พิษณุ สกุลโรมวิลาส
  • Nation Documentary งานสารคดีที่จะนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ความเป็นไปด้านวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของผู้คนในอาเซียน เพื่อเปิดประตูสู่ผู้ชมในแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง, สถานีโทรทัศน์ในต่างประเทศ

การเปิดตัวของสถานีโทรทัศน์ช่องท็อปนิวส์ (TOP NEWS)

ก่อนที่จะมีการเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ช่องท็อปนิวส์นั้น นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้บริหารของ TOP  NEWS ได้พยายามเจรจากับผู้บริหารของช่องนิว 18 ที่มีใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิทัล เพื่อขอซื้อกิจการแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นก็ได้มีการเจรจากับ  นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ  เพื่อขอเข้าไปผลิตรายการข่าวที่ชื่อว่าท็อปนิวส์ (TOP NEWS) ในช่องพีพีทีวี แต่ก็คว้าน้ำเหลวเช่นกัน

ในที่สุด นายสนธิญาณจึงได้ตัดสินใจทำช่องท็อปนิวส์ขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากนายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีวี ไดเร็ค เจ้าของธุรกิจโฮมชอปปิ้ง  “ทีวีไดเร็ค”  ให้ใช้อาคารทีวีไดเร็คโมโม่ ย่านวัชรพล พร้อมสตูดิโอ และออกอากาศผ่านทางช่องทีวีดี 10 (PSI ช่อง 77) ซึ่งมีบริษัท ทีวีดี เซอร์วิสเซส จำกัด  เป็นผู้ถือใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์แบบไม่ใช้คลื่นความถี่จากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  ให้กับกลุ่มทีวีไดเร็คอีกที 

สถานีโทรทัศน์ช่องท็อปนิวส์ (TOP NEWS) ภายใต้การบริหารของนายสนธิญาณ โดยมีทีมงานที่ประกอบด้วยกลุ่มผู้ประกาศข่าวที่เคยทำงานอยู่ที่เนชั่นทีวีด้วยนั้น ได้ประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 ว่า จะเผยแพร่รายการผ่าน 5 ช่องทางได้แก่

1.จานรับสัญญาณดาวเทียมทั้งระบบ C BAND และ KU BAND ช่อง 77 2. เคเบิ้ลทีวี ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด  3. สมาร์ททีวีและแอนดรอยด์ทีวี 4.กล่องรับสัญญาณ IPTV ทั้งจาก AIS PLAY, GMM, TRUEID, 3BB, PSI, INFOSAT และ TOT เป็นต้น 5. โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ ได้แก่ ยูทูป เฟซบุ๊กเพจ TOP News และเว็บไซต์ www.topnews.co.th

การเปลี่ยนแปลงและความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปี 2564 นั้น ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่มีความน่าสนใจและน่าติดตามว่า ท่ามกลางสถานการณ์ต่าง ๆ นานาที่เกิดขึ้นนั้น ทีวีดิจิทัลของไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป

อ้างอิง
  • จีเอ็มเอ็มทีวี. 2563. “GMMTV” จับมือ “VLIVE” สร้างมิติใหม่ จัดงาน “Global Live Fan Meeting” ครั้งแรกในประเทศไทย คว้า “คริส-สิงโต, ออฟ-กัน, เต-นิว, ไบร์ท-วิน” ส่งมอบความฟินทั่วโลก ผ่านไลฟ์สตรีมมิ่ง เริ่ม 30 พฤษภาคมนี้ [ออนไลน์] จาก https://www.gmm-tv.com/news/2022/.
  • BRAND BUFFET . 2563. “อริยะ พนมยงค์” ลาออก “ช่อง 3” จุดเปลี่ยน “มาลีนนท์” คนไหนขึ้นมานำทัพ BEC [ออนไลน์] จาก https://www.brandbuffet.in.th/2020/04/ariya-banomyong-resigning-as-president-of-bec/.
  • มาร์เก็ตติ้ง อุปส์. 2563. ‘อริยะ พนมยงค์’ กับ 1 ปี ในฐานะแม่ทัพช่อง 3 และจากนี้ ‘จะอยู่’ หรือ ‘ไป’ เมื่อช่อง 3 ยังขาดทุน [ออนไลน์] จาก https://www.marketingoops.com/news/one-year-ariya-ceo-channel-3/.
  • ไทยรัฐออนไลน์. 2563. เจาะเบื้องลึกช่อง 3 ปลดพนักงานออก 300 คน ข่าวหลุด-ก่อนช็อกผ่าน SMS [ออนไลน์] จาก https://www.thairath.co.th/entertain/news/1966676.
  • อินโฟเควสท์. 2563. ศาลฯ สั่งยกเลิกปิด Voice TV พร้อมยกคำร้องขอปิด 3 สื่อออนไลน์-เพจเยาวชนปลดแอก [ออนไลน์] จาก https://www.infoquest.co.th/2020/43472.
  • ผู้จัดการออนไลน์. 2563. ไปอีกคน! “ธีระ ธัญไพบูลย์” ลาออกจากเนชั่นตาม “กนก” ปิดตำนาน 20 ปีค่ายบางนา [ออนไลน์] จาก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000116327.
  • มติชนออนไลน์.2563. ‘เนชั่นทีวี’ เปิดตัว 8 ผู้ประกาศข่าวใหม่ นำทัพโดย ‘ชิบ จิตนิยม-ต๊ะ พิภู’ ดีเดย์เฟสแรก 16 ธันวาคมนี้ [ออนไลน์] จาก https://www.matichon.co.th/entertainment/news_2486367
  • ผู้จัดการออนไลน์. 2563. 2564 ทีวีดาวเทียมยังไม่ตาย? [ออนไลน์] จาก https://news1com/detail/9640000010264

รายงานภูมิทัศน์สื่อไทยปี 2564

ผู้ที่สนใจรายงานภาพรวมภูมิทัศน์สื่อไทยปี 2564 (ฉบับภาษาอังกฤษ) สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่