ดาวโจนส์ปิดร่วง 973.65 จุด หลัง’ทรัมป์’เตือนสหรัฐรับมือโควิด-19 ระบาดรุนแรง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีดิ่งลงกว่า 4% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกโรงเตือนชาวสหรัฐให้เตรียมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลและกดดันให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มต่างๆเป็นวงกว้าง ไม่เว้นแม้แต่หุ้น defensive stocks ซึ่งเป็นหุ้นที่ตลาดมองว่ามีความปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจได้ดี เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,943.51 จุด ร่วงลง 973.65 จุด หรือ -4.44%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,470.50 จุด ลดลง 114.09 จุด หรือ -4.41%
  • ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,360.58 จุด ลดลง 339.52 จุด หรือ -4.41%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า สถานการณ์ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้จะรุนแรงและเจ็บปวดมาก ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ทำเนียบขาวออกรายงานคาดการณ์ในวันเดียวกันว่า ชาวอเมริกันอาจเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงถึง 100,000-240,000 ราย แม้ว่ารัฐต่างๆในสหรัฐได้ประกาศมาตรการให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมแล้วก็ตาม

ถ้อยแถลงดังกล่าวของปธน.ทรัมป์และทำเนียบขาวทำให้นักลงทุนยิ่งวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 และได้ฉุดหุ้นกลุ่มต่างๆร่วงลงเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคที่นักลงทุนเคยมีมุมมองว่าเป็นหุ้นที่ปลอดภัย โดยหุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 6.4% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น ดิ่งลง 9.05% หุ้นเฟิร์สท์ เอนเนอร์จี ลดลง 3.02% หุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ร่วงลง 4.09%

หุ้นกลุ่มสายการบินและธุรกิจเรือสำราญร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทรุดตัวลง 18.7% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 12.3% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 16.3% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ดิ่งลง 10.03% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ดิ่งลง 33.1% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ร่วงลง 19.89% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ร่วงลง 12.47%

หุ้นซีร็อกซ์ โฮลดิ้งส์ คอร์ป ซึ่งบริษัทผลิตเครื่องพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 7.07% หลังจากซีร็อกซ์ประกาศยกเลิกแผนการซื้อหุ้นของบริษัทเอชพี อิงค์ วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อความพยายามของซีร็อกซ์ที่จะเทคโอเวอร์เอชพี ขณะที่ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเอชพี ดิ่งลง 14.6%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 27,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 125,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 179,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 50.1 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.พ., ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top