แหล่งข่าวจากบมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า รายการบิ๊กล็อตซื้อขายหุ้นบริษัทจำนวน 9,080,416,000 หุ้น คิดเป็น 47.34% ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ภายในตระกูล “เลี่ยวไพรัตน์” เท่านั้น ไม่ได้มีการซื้อขายหุ้นไปยังผู้อื่นแต่อย่างได
“ส่วนของรายการบิ๊กล็อตที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการปรับสัดส่วนการถือหุ้นในตระกูลใหม่เท่านั้น ไม่ได้มีการขายหุ้นออกไปยังนอกตระกูลแต่อย่างใด และยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อแผนการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัทแน่นอน”
แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางยอดขายในช่วงไตรมาส 1/63 ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องหลังจากการแพร่ระบาดยังเพิ่มมากขึ้น และเศรษฐกิจก็ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงระยะเวลานี้บริษัทได้เร่งเวลาการปรับปรุงเครื่องจักรให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นการปรับปรุงใหญ่ในรอบ 20 ปี โดยจะทยอยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ รวมระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี
“ในช่วงที่สถานการณ์เป็นแบบนี้โครงการต่าง ๆ ที่ได้เริ่มก่อสร้างไปแล้วเราเชื่อว่าจะต้องมีการก่อสร้างต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นการเสียโอกาส ส่วนโครงการใหม่ ๆ ของภาคเอกชนก็มีการชะลอตัวไป โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับผลกระทบจากนักลงทุนจากประเทศจีนหายไป แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังต้องติดตามงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของภาครัฐว่าจะออกมามากน้อยเพียงใด ซึ่งตอนนี้เราได้เตรียมสินค้าไว้เพียงพอต่อความต้องการใช้ ในช่วงของการปรับปรุงเครื่องจักร” แหล่งข่าว กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 เม.ย. 63)
Tags: TPIPL, ทีพีไอ โพลีน, หุ้นไทย, เลี่ยวไพรัตน์