กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยมุมมองการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ชี้เศรษฐกิจมีแนวโน้มหยุดนิ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายชางยอง รี ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียและแปซิฟิกของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ ในภูมิภาคควรใช้ประโยชน์จากนโยบายที่มีอยู่ทั้งหมดเข้ามาสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ ระหว่างที่ต้องเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กไปพร้อมกัน
นายรีระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจมากกว่าวิกฤตการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการเงินโลก ซึ่งทำให้การขยายตัวของภูมิภาคลดลงเหลือเพียง 4.7% หรือ วิกฤตการเงินเอเชียที่ส่งผลกระทบทำให้การขยายตัวลดลงเหลือ 1.3%
“นี่ไม่ใช่เวลาปกติสำหรับธุรกิจ ประเทศในเอเชียจำเป็นต้องใช้เครื่องมือด้านนโยบายที่พวกเขามีอยู่ และการที่จะทำเช่นนั้น แน่นอนว่าการแลกเปลี่ยนนโยบายย่อมเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกัน การเลือกใช้นโยบายก็จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ของนโยบายต่างๆ ด้วย”
นายรีกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายรีเปิดเผยว่า ขณะนี้มีประเทศในภูมิภาค 17 ประเทศที่แสดงความสนใจกองทุนฉุกเฉินของไอเอฟเอ็มทั้ง 2 ประเภทอย่าง อาร์ซีเอฟ (Rapid Credit Facility) และ อาร์เอฟไอ (Rapid Financing Instrument)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 63)
Tags: COVID-19, IMF, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, ชางยอง รี, ผลกระทบโควิด-19, โควิด-19