พลังงาน ชงมาตรการลดภาระค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือน มี.ค.-พ.ค.63 เข้าครม.พรุ่งนี้

รมว.พลังงาน จะเสนอมาตรการลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับภาคครัวเรือนในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.63 ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ โดยส่วนแรกจะขยายมาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีสำหรับครัวเรือนขนาดเล็กที่ติดตั้งมิเตอร์ขนาดไม่เกิน 5 แอมป์ ให้ใช้ไฟฟ้าฟรีเพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน จากเดิม 90 หน่วย/เดือน

ส่วนครัวเรือนที่ติดตั้งมิเตอร์ขนาดเกินกว่า 5 แอมป์ขึ้นไป จะให้ใช้ไฟฟ้าฟรีในส่วนที่เกินกว่าที่ใช้ในเดือน ก.พ.63 แต่ต้องไม่เกิน 800 หน่วย โดยส่วนที่เกิน 800 หน่วยจะคิดปริมาณลดลง 50% และหากเกินกว่า 3 พันหน่วย จะคิดปริมาณลดลง 30% โดยจะหน่วยที่ใช้ไฟฟ้าจากการคิดส่วนลดแล้วมาคำนวณค่าไฟฟ้าตามปกติ

“มติที่ที่ประชุมเห็นชอบร่วมกันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระประชาชนในช่วงที่อยู่บ้านทำให้มีการใช้ไฟมากขึ้น มติวันนี้จะต้องนำไปผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพราะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างค่าไฟ…สำหรับเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ดูแลประชาชนในส่วนนี้ ทางกกพ.จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินที่จะนำมาช่วยเหลือครั้งนี้”

นายสนธิรัตน์ กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมให้กับทุกครัวเรือนทั่วประเทศที่มีอยู่ราว 20 ล้านครัวเรือน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพในช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่ดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาลด้วยการอยู่บ้าน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามภาคครัวเรือนต่าง ๆ โดยการพิจารณาจะใช้ฐานการใช้ไฟฟ้าในเดือนก.พ.เป็นเกณฑ์ตั้งต้น

กลุ่มแรกที่ขยายมาตรการใช้ไฟฟ้าฟรีไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน สำหรับครัวเรือนขนาดเล็กที่ติดตั้งมิเตอร์ขนาดไม่เกิน 5 แอมป์ คาดว่าจะมีครัวเรือนที่อยู่ในข่ายดังกล่าวทั้งหมดราว 10 ล้านครัวเรือน

กลุ่มที่สอง ที่ติดตั้งมิเตอร์เกินกว่า 5 แอมป์ และมีการใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 150 หน่วย/เดือนนั้น คาดว่าจะมีครัวเรือนอยู่ที่ราว 10 ล้านครัวเรือน จะให้ส่วนลดการใช้ไฟฟ้าสำหรับส่วนที่เกินจากการใช้ปกติของฐานเดือน ก.พ.63 โดยหากไม่เกิน 800 หน่วยจะให้ใช้ไฟฟ้าฟรีในส่วนที่เกิน แต่หากเกิน 800 หน่วย จะคิดส่วนเกินในปริมาณลดลง 50% และหากใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 3 พันหน่วย จะคิดปริมาณส่วนเกินในปริมาณลดลง 30%

ทั้งนี้ ยกตัวอย่างว่าหากเดือน ก.พ.63 มียอดใช้ไฟฟ้าในระดับ 300 หน่วย ต่อมาเดือน มี.ค.63 ใช้ไฟเพิ่มขึ้นเป็น 700 หน่วย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ไม่ถึง 800 หน่วย คือมีส่วนเกินจำนวน 400 หน่วยก็จะไม่นำมาคิดค่าไฟฟ้า แต่หากเดือน มี.ค.63 ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 หน่วย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มากกว่า 800 หน่วย ทำให้มีส่วนเกิน 700 หน่วย โดย 700 หน่วยดังกล่าวจะนำมาคิดส่วนลด 50% คงเหลือ 350 หน่วย การคิดค่าไฟฟ้าสำหรับ มี.ค.จะรวมทั้งสิ้น 650 หน่วย

แต่หากเดือน มี.ค.63 ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 3,200 หน่วย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มากกว่า 3,000 หน่วย ทำให้มีส่วนเกิน 2,900 หน่วย โดย 2,900 หน่วยดังกล่าวจะนำมาคิดส่วนลด 30% คงเหลือ 2,030 หน่วย การคิดค่าไฟฟ้าสำหรับมี.ค.63 จะรวมทั้งสิ้น 2,330 หน่วย ซึ่งจะนำมาคิดอัตราค่าไฟฟ้าตามปกติ

อย่างไรก็ตาม สำหรับบิลค่าไฟฟ้าในรอบเดือนมี.ค.ที่ออกมาแล้วนั้น ผู้บริโภคต้องไปชำระค่าไฟฟ้าตามบิลก่อน และทางการไฟฟ้าจะทยอยคืนให้เร็วที่สุดคาดว่าจะเป็นในรอบบิลถัดไป

รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า สำหรับการหารือวันนี้เป็นการหารือเพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือน โดยยังไม่ได้หารือในส่วนของผู้ประกอบการที่ก่อนหน้านี้ได้เสนอขอลดค่าไฟฟ้าลง 5%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 เม.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top