AOT คาดงวดปี 63 ผู้โดยสารลดลง 53.1% มาที่ 66.58 ล้านคน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ฝ่ายบริหาร ทอท.ได้รายงานประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในปีงบประมาณ 63 (เดือน ต.ค.62-ก.ย.63) จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะมีเที่ยวบินประมาณ 493,800 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารประมาณ 66.58 ล้านคน ลดลง 44.9% และ 53.1% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ทอท.เห็นว่าระยะเวลาในการฟื้นตัวของธุรกิจการบินจำเป็นต้องมีการพึ่งพาการฟื้นตัวของประเทศปลายทาง ซึ่งสำหรับประเทศไทยมีประเทศปลายทางที่สำคัญ คือ กลุ่มประเทศจากทวีปเอเชียแปซิฟิกที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% และคาดว่าการฟื้นตัวของเที่ยวบินภายในประเทศจะเกิดขึ้นก่อนเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การควบคุมการแพร่ระบาดฯ ในแต่ละประเทศ การค้นพบยาหรือวัคซีนสำหรับรักษาหรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จ เป็นต้น ซึ่งหากสามารถควบคุมการระบาดทั่วโลกได้ เศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศหลักๆ เริ่มฟื้นตัว ปริมาณการจราจรจะกลับมามีปริมาณปกติที่ระดับเดิมของปี 62 ในเดือน ต.ค.64

นอกจากนั้น คณะกรรมการ ทอท.ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทจำกัดเพื่อบริหารโครงการเกี่ยวกับสินค้าเน่าเสียง่าย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) (Perishable Premium Lane : PPL) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก (Certify Hub) โดย ทอท.จะถือหุ้นร้อยละ 49 และเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าวถือหุ้น 51% เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการสินค้าเกษตรของไทยให้คงคุณภาพและมีมาตรฐานตามหลักสากล

สำหรับช่องทาง PPL จะมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมสินค้าแยกออกจากอาคารขนถ่ายสินค้า พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจและเตรียมสินค้าเกษตร เปรียบเสมือนการให้บริการชั้นธุรกิจ (Business Class) สำหรับสินค้า โดยสินค้าในช่องทาง PPL จะได้รับการดูแลและจัดเตรียมสินค้าโดยผู้ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเพื่อนำส่งให้อาคารขนถ่ายสินค้าดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ในเดือน มิ.ย.63 และเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.63

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top