เงินบาทเปิด 32.20 ต่อดอลล์ กังวลโควิดระบาดใหม่หลังหลายประเทศคลายล็อกดาวน์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.20 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.16 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเนื่องจากตลาดกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังมาแพร่ระบาดใหม่หลังผ่อนคลายมาตรการทั้งในจีน เกาหลีใต้ และเยอรมนี นอกจากนี้ยังติดตามความคืบหน้าเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน

“บาทอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ หลังตลาดกังวลเรื่องเชื้อโควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ในหลายประเทศหลังคลายล็อกดาวน์” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.15-32.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (11 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.53840% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.72997%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 107.68 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.22 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0809 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0822 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.1500 บาท/ดอลลาร์
  • “ไทยบีเอ็มเอ” เผยตลาดหุ้นกู้เริ่มฟื้น หลังเอกชนเริ่มหันมาระดมทุน ชี้ล่าสุดมีกว่า 10 บริษัท ยื่นไฟลิ่งออกขายหุ้นกู้ มั่นใจช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ยอดระดมทุนไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้าน สะท้อนความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา ด้าน “ไพบูลย์” ฟันธง หุ้นไทยระยะยาวยังขาขึ้น สิ้นปีมีลุ้น 1,400 จุด ขณะดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดบวกกว่า 21 จุด
  • FETCO คาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,400 จุด จี้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว”
  • ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า ขณะนี้เฟทโก้อยู่ระหว่างการระดมสมองของนักวิเคราะห์ บริษัทจดทะเบียน และผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน เพื่อเรียบเรียงและจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนำเสนอกับทางรัฐบาล อาทิ สร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่มีกำลังซื้อสูงและไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มาใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่มีปัญหา เช่น ช้อปช่วยชาติ เพิ่มการลดหย่อนภาษีจาก 15,000 บาท เป็น 50,000 บาท หรือกระตุ้นให้คนไทยที่นิยมไปท่องเที่ยวต่างประเทศหันมาท่องเที่ยวในประเทศ และในการเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้ระดมทุนในตลาดทุนเพื่อไม่ต้องกู้เงินเพิ่ม
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าผลกระทบการระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้มีผู้ว่างงานจากการถูกเลิกจ้างเพียง 3 ล้านคนต่ำกว่าที่คณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินไว้ที่ 7 ล้านคน เนื่องจากรัฐบาลควบคุมการระบาดไวรัสได้ดีและสามารถรีสตาร์ตธุรกิจได้เร็วกว่ากำหนด จึงส่งผลให้ภาคธุรกิจเริ่มดำเนินกิจการและมีรายได้เสริมสภาพคล่องได้ทันเวลา
  • “สนธิรัตน์” เตรียมหามาตรการช่วย กลุ่มโรงกลั่น-ผู้ค้าน้ำมัน หลังขาดทุนสต็อกหลายหมื่นล้าน เหตุพิษโควิดฉุดความต้อง
    การใช้ลดลง กดราคาน้ำมันโลกดิ่งต่ำสุดรอบกว่า 30 ปี
  • “ส.อ.ท.-สภาองค์การนายจ้าง” มองสวนทางบอร์ดประกันสังคม หนุนทบทวนเพิ่มการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนจาก 62% เป็น 75% เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ชี้ต้องช่วยระยะสั้นให้รอดตายก่อน หากมองแต่อนาคตเงินไม่พออาจไม่มีอนาคตให้เห็น “หม่อมเต่า” ย้ำจ่ายชดเชยว่างงาน 75% ทำได้ เงินมีเพียงพอ ลุ้นรายงาน ครม.วันนี้เคาะแนวทาง
  • บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติชั้นนำในระดับนานาชาติ เปิดเผยว่า นักลงทุนชาวอเมริกันแสดงความสนใจที่จะพำนักแบบระยะยาวหรือพำนักแบบถาวรในไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • S&P Global ระบุในวันนี้ว่า รัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ S&P ได้ทำการทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 90 ประเทศ โดยได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปเป็นเวลานานเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ และเฟดจะไม่ใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบตามที่ธนาคารกลางชาติอื่นดำเนินการ
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปในหลายประเทศอาจทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,700 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน เม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • นักลงทุนจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากผู้แทนการค้าสหรัฐและจีนได้หารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรก ขณะที่จีนระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะปรับปรุงบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top