หุ้น TU ปิดเทรดช่วงเช้าราคาไหลลง 3.05% มาอยู่ที่ 12.70 บาท ลดลง 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 274.10 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 12.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 12.90 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 12.50 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ได้ปิดโรงงานผลิตปลากระป๋องในประเทศกานาตั้งแต่ 17 เม.ย. หลังพบว่า คนงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปัจจุบันโรงงานได้กลับมาเปิดแล้วด้วยกำลังการผลิตส่วนหนึ่ง
ฝ่ายวิจัย มองเป็นประเด็นลบต่อ TU โดยอยู่ระหว่างสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากบริษัท ทั้งนี้ TU มีโรงงานทั้งหมด 29 แห่งในหลายประเทศทั่วโลก โดยมี 1 โรงงานที่กานา คือ Pioneer Food Cannery Limited ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน ยุโรป (เดิมคือ MW Brands ซึ่ง TU ซื้อกิจการมาเมื่อปี 53) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตปลาทูน่ากระป๋องเพื่อขายในยุโรป
ทั้งนี้ แม้ยังไม่รวมผลกระทบที่อาจเกิดจากการปิดโรงงานกานาชี่วคราวก็คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/63 ชะลอตัวจากยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งยังมีแนวโน้มลดลงจากลูกค้ากลุ่ม Food service ที่ชะลอลงจากการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น
อีกทั้งประเมินว่าร้าน Red Lobster ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปิดสาขาเป็นเวลานานกว่าช่วงไตรมาส 1/63 โดยคาดว่ากำไรปกติปีนี้ลดลง 15% YoY ภายใต้สมมติฐานการปิดร้าน Red Lobster เป็นเวลา 4 เดือน จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63
จึงแนะนำ “ถือ” TU โดยให้ราคาเป้าหมาย (PER 15 เท่า) 14.10 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 63)
Tags: TU, หุ้นไทย, ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป