เงินบาทเปิด 31.86 ต่อดอลล์ จับตาตัวเลขส่งออกไทย-ประชุมศบค.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.86 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.83/86 บาท/ดอลลาร์

“เมื่อคืนราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 30 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้คาดว่าวันนี้อาจจะมีแรงซื้อดอลลาร์จากผู้นำเข้าทองคำเข้ามา ขณะที่นักลงทุนกังวลความสัพนธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐฯ จะตอบโต้จีนอย่างรุนแรงหากจีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง”

นักบริหารเงิน ระบุ

สำหรับวันนี้ต้องจับตัวเลขข้อมูลทางการค้าของไทย และกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)พิจารณาให้ต่ออายุการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกไปอีก 1 เดือน

เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 31.80 – 31.90 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (21 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.48357% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.66234%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.8625 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.62 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 107.70/85 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0960/0969 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.8470 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนเมษายน 2563
  • เช้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อรองรับการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 3 และ 4
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เหลือ 0.50% ต่อปี ว่า การลดดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่ควรทำในภาวะเศรษฐกิจซบเซาและขยายตัวไม่ได้อย่างที่คิด ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.สอดคล้องกับนโยบายการเงินการคลังของกระทรวงการคลัง
  • กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดสรรงบประมาณ 150 ล้านบาท จัดทำโครงการฟื้นฟูผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเร่งด่วนในเวลา 90 วัน (มิ.ย.-ส.ค.) รองรับสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายใน 4 กลุ่ม ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ระบบเศรษฐกิจได้รวม 800 ล้านบาท
  • รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือกับนายกรัฐมนตรี ผลักดันให้มีการปลดล็อกการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างเป็นทางการ ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เบื้องต้นอาจส่งเสริมให้มีการเดินทางไปยังจังหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อนานกว่า 21 วัน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน มีจำนวนต่ำกว่าสิบคนต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีประกอบกับผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีมีสภาพคล่องอยู่ได้ถึงเดือน พ.ค.นี้ หากนายกฯประกาศให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้เดือนหน้า จะช่วยต่อลมหายใจผู้ประกอบการได้อีกทาง
  • พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นเราไม่ทิ้งกัน วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.-21 พ.ค.63 ขณะนี้มีผู้เข้าจองซื้อพันธบัตรดังกล่าวจนครบวงเงินการออกพันธบัตรแล้วภายในสัปดาห์เดียว โดยขณะนี้ สบน. กำลังอยู่ระหว่างประเมินว่าควรจะเปิดขายพันธบัตรเพิ่มเติมในรุ่นต่อไปหรือไม่ เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
  • สื่อต่างประเทศรายงานว่า คณะผู้นำจีนประกาศยกเลิกการกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปี 2563 ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) หรือ “ฉวนกั๋วเหรินต้า” ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนเผชิญกับความไม่แน่นอน
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% ในการประชุมฉุกเฉินวันนี้ พร้อมกับคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับ 0%
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะแตะจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 3 ก่อนที่จะพุ่งขึ้นอย่างมากในไตรมาส 4
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.44 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.40 ล้านราย และยังบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้ชาวอเมริกันตกงานสูงถึง 38.6 ล้านรายนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) ขานรับรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคการผลิตทั้งในสหรัฐและยุโรป ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านร่างกฎหมาย “Holding Foreign Companies Accountable Act” ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอาจทำให้บริษัทจีนจำนวนมากไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ หรือระดมเงินทุนจากนักลงทุนชาวอเมริกันได้ในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top