ดาวโจนส์ปิดลบ 170.37 จุด วิตกศก.ซบหากโควิดระบาดรอบสอง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ และจีน โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าทางรัฐบาลอาจจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้ง และจะฉุดเศรษฐกิจให้ทรุดตัวลงอีก

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,119.61 จุด ลดลง 170.37 จุด หรือ -0.65%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,113.49 จุด ลดลง 11.25 จุด ลดลง -0.36%
  • ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,910.53 จุด เพิ่มขึ้น 14.66 จุด หรือ +0.15%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าไวรัสโควิด-19 อาจกลับมาแพร่ระบาดรอบสอง หลังมีรายงานว่า รัฐอริโซา ฟลอริดา โอกลาโฮมา และเท็กซัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในรัฐเท็กซัส เนวาดา และฟลอริดา ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน

ทั้งนี้ เท็กซัสเป็นหนึ่งในรัฐแรกๆที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยมีการอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินกิจการในวันที่ 1 พ.ค. ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การพุ่งขึ้นของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเท็กซัสจะเป็นหลักฐานย้ำเตือนถึงรัฐต่างๆมิให้เปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป

ส่วนสถานการณ์ในจีนนั้น กรุงปักกิ่งได้กลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้กรุงปักกิ่งประกาศยกระดับเตือนภัยฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดจากระดับ 3 สู่ระดับ 2 และสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ สายการบินจีนหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงแอร์ ไชน่า, ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ และไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ยังได้ระงับเที่ยวบินเส้นทางเข้าและออกกรุงปักกิ่งด้วย

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI ที่อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 4.2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.26% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 2.7% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 6.16%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2.58% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.6% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 3.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.7%

หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญร่วงลง หลังจากบริษัทนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ประกาศขยายเวลาการระงับบริการเดินเรือออกไปจนถึงเดือนก.ย. โดยหุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง ดิ่งลง 8.4% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ร่วงลง 6.5% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ร่วงลง 7.09%

หุ้นเฟซบุ๊ก ขยับลง 0.1% ขณะที่ทางบริษัทประกาศนโยบายติดแถบข้อความเตือนบนโฆษณาทางการเมืองที่ถูกแชร์ในฟีดของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

นักลงทุนซึมซับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ โดยนายพาวเวลระบุว่า เฟดจะเข้าซื้อหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆโดยตรง แทนการเข้าซื้อผ่านกองทุน ETFs

“เมื่อเวลาผ่านไป เราจะค่อยๆถอยห่างจากกองทุน ETFs และเข้าซื้อหุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเครื่องมือที่ดีกว่าในการเพิ่มสภาพคล่อง และสนับสนุนการทำงานของตลาด”

นายพาวเวลกล่าว

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 974,000 ยูนิต หลังจากดิ่งลง 26.4% ในเดือนเม.ย. และลดลง 19.0% ในเดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top